เทรนด์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในหัวเมืองหลักของไทย
ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเมืองใหญ่ของไทยมีการปรับตัวตอบรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศให้ความสนใจทำเลศักยภาพสูง เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา และขอนแก่น ซึ่งต่างมีเอกลักษณ์และโอกาสเติบโตเฉพาะตน
1. กรุงเทพฯ
ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในเขตใจกลางเมืองยังคงแข็งแรง โดยราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 150,000–200,000 บาทต่อตารางเมตร ผู้พัฒนาเน้นดีไซน์หรูและระบบสมาร์ตโฮม ส่วนตลาดบ้านแนวราบในชานเมือง ราคาปรับขึ้น 5–7% ต่อปี เนื่องจากความต้องการพื้นที่อยู่อาศัยที่กว้างขึ้นและโครงข่ายรถไฟฟ้าขยายตัว
2. เชียงใหม่
เชียงใหม่ยังคงเป็นจุดหมายของนักอยู่อาศัยและนักลงทุนจากภูมิภาคอาเซียน บ้านวิลล่าและโครงการหมู่บ้านตากอากาศในเขตอำเภอเมืองมีราคาเฉลี่ย 4–6 ล้านบาทต่อหลัง การเติบโตมาจากการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและดิจิทัลโนแมดที่เลือกใช้ชีวิตนอกกรุงเทพฯ
3. ภูเก็ต
ตลาดวิลล่าหรูและโรงแรมบูติกบนเกาะภูเก็ตมีการเปิดตัวโครงการใหม่ต่อเนื่อง ราคาตารางเมตรในย่านกะตะ กะรน และลากูน่าปรับขึ้น 8–10% นักลงทุนมองหาอสังหาฯ ระยะสั้นสำหรับปล่อยเช่าให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่กลับมาเที่ยวหลังโควิด
4. พัทยา
พัทยาได้รับแรงหนุนจากนักท่องเที่ยวในประเทศและต่างชาติ คอนโดติดทะเลราคาเริ่มต้นที่ 80,000–120,000 บาทต่อตารางเมตร มีแนวโน้มพัฒนาโครงการ Mixed-use ที่ผสมร้านอาหารและศูนย์การค้าช่วยเพิ่มมูลค่า
5. ขอนแก่น
เมืองขอนแก่นเติบโตเป็นศูนย์กลางการศึกษาและเทคโนโลยี ราคาบ้านเดี่ยวในอำเภอเมืองอยู่ที่ 2–3 ล้านบาทต่อหลัง นักลงทุนรุ่นใหม่สนใจสร้างคอนโดมีเนียมขนาดกลางเพื่อรองรับกลุ่มนิสิตนักศึกษาและคนทำงานอุตสาหกรรมใหม่
สรุปแล้ว หัวเมืองหลักของไทยแต่ละพื้นที่มีแนวโน้มเติบโตที่แตกต่างกันตามปัจจัยท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว การศึกษา หรือการขยายโครงข่ายคมนาคม นักลงทุนควรเลือกทำเลที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายเพื่อสร้างผลตอบแทนสูงสุด
Don't miss a story
Subscribe to our email newsletter:
Don't worry we hate spam as much as you do



