ราคาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์เมืองท่องเที่ยว
เมืองท่องเที่ยวสำคัญของไทยอย่างภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ และหัวหิน ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ราคาที่ดินในเขตใจกลางเมืองปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงความต้องการที่พักอาศัยและโรงแรมเพื่อการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นตามกระแสการเดินทางทั่วโลก
ในปี 2025 ราคาที่ดินในภูเก็ตโซนเมืองหลัก (เช่น ฉลอง ราไวย์ กะทู้) เฉลี่ยอยู่ที่ 120,000–150,000 บาทต่อตารางเมตร เพิ่มขึ้นประมาณ 8–10% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่ในพัทยา ย่านจอมเทียนและนาเกลือ ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 90,000–110,000 บาทต่อตารางเมตร เติบโตเฉลี่ย 6–9% ต่อปี
อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน
- คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ (ไม่เกิน 8 ชั้น) ได้รับความนิยมจากนักลงทุนที่มองหาการกระจายความเสี่ยง เนื่องจากค่าธรรมเนียมโอนและภาษีที่ต่ำกว่า
- โรงแรมบูติกและวิลล่าหรูเติบโตตามความต้องการที่พักอาศัยระยะสั้นของนักท่องเที่ยวที่มองหาประสบการณ์เฉพาะตัว
- แลนด์แอนด์เฮาส์ (บ้านเดี่ยวพร้อมที่ดิน) ย่านชานเมืองเชียงใหม่ เช่น แม่ริม และสันกำแพง ราคาตารางวาเฉลี่ย 60,000–80,000 บาท เพิ่มขึ้นราว 7% ต่อปี
ปัจจัยขับเคลื่อนราคาที่ดิน
หลักๆ มาจากการพัฒนาสาธารณูปโภค เช่น ท่าอากาศยาน การขยายถนนและทางด่วน ระบบระบายน้ำ รวมถึงโครงการรถไฟเชื่อมต่อสนามบินไปยังเขตเมืองสำคัญ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยด้านนโยบายส่งเสริมการลงทุนภาครัฐ และแผนพัฒนาท่าเรือเชิงเศรษฐกิจที่ทำให้พื้นที่รอบชายฝั่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้น
ผลกระทบต่อราคาค่าเช่า
ค่าเช่าคอนโดในเมืองท่องเที่ยวเฉลี่ยอยู่ที่ 600–900 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ตั้งและวิว โดยย่านติดทะเลอาจเกิน 1,200 บาท ต่อตารางเมตรต่อเดือน ขณะที่อัตราการเข้าพักโรงแรมเฉลี่ยปีล่าสุดอยู่ที่ 65–75% ตลอดปี
ความท้าทายและความเสี่ยง
แม้ราคาจะปรับสูง แต่ความผันผวนจากภาคการท่องเที่ยว ยุทธศาสตร์สิ่งแวดล้อม รวมถึงกฎระเบียบบ้านพักตากอากาศที่เข้มงวดขึ้น อาจส่งผลต่อความต้องการในระยะยาว นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ควบคู่กับอัตราดอกเบี้ยและภาระภาษีที่อาจเพิ่มขึ้นในอนาคต
แนวโน้มในอนาคต
คาดว่าการเปิดเส้นทางบินตรงใหม่ๆ จากยุโรปและตะวันออกกลาง รวมถึงกลุ่มตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะช่วยกระตุ้นความต้องการอสังหาริมทรัพย์ต่อไป นอกจากนี้ เทคโนโลยี PropTech เช่น ระบบบริหารจัดการอาคารอัจฉริยะ จะเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการใหม่ๆ และช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน
สรุปแล้ว ราคาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ในเมืองท่องเที่ยวของไทยยังคงมีแนวโน้มเติบโต แต่ต้องพิจารณาความเสี่ยงด้านสภาพแวดล้อมและกฎระเบียบ รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่จะเป็นตัวแปรสำคัญในการตัดสินใจลงทุน
Don't miss a story
Subscribe to our email newsletter:
Don't worry we hate spam as much as you do



