Share Tweet Pin it

วิกฤตน้ำท่วมภาคเหนือเสียหายหนัก หลายจังหวัดจมบาดาล ประชาชนเดือดร้อนนับหมื่น

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา พื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทยต้องเผชิญกับวิกฤตน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องจากอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และพายุโซนร้อน ส่งผลให้แม่น้ำสายหลักอย่างแม่น้ำยม แม่น้ำน่าน และแม่น้ำปิง เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือน พื้นที่เกษตร และเส้นทางคมนาคมในหลายจังหวัด เช่น สุโขทัย พิษณุโลก น่าน อุตรดิตถ์ และแพร่ ความเสียหายทางเศรษฐกิจเบื้องต้นประเมินสูงกว่าหลายร้อยล้านบาท

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานว่า มีหมู่บ้านได้รับผลกระทบมากกว่า 300 แห่ง บ้านเรือนกว่า 15,000 หลังถูกน้ำท่วมจมมิด หลายพื้นที่น้ำลึกเกิน 1.5 เมตร ประชาชนต้องอพยพขึ้นไปอยู่ที่สูงและศูนย์พักพิงชั่วคราว โรงเรียนหลายแห่งต้องหยุดเรียน ขณะที่ถนนสายหลักและสะพานในบางจุดถูกตัดขาด การเดินทางและการขนส่งสินค้าได้รับผลกระทบอย่างหนัก ภาพมวลน้ำไหลหลากท่วมเมืองกลายเป็นข่าวใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ

ภาพรวมสถานการณ์และความช่วยเหลือ

ทีมกู้ภัยจากหน่วยงานรัฐ ทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครต่างเร่งเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยง จัดตั้งศูนย์อพยพและแจกจ่ายถุงยังชีพ น้ำดื่ม ยารักษาโรค รวมถึงจัดส่งอาหารและเรือท้องแบนเข้าไปในจุดที่ถูกตัดขาด ขณะที่เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยยังติดตั้งเครื่องสูบน้ำ และเสริมแนวกระสอบทรายป้องกันน้ำเอ่อล้นเพิ่มเติม

หลายองค์กรเอกชนและประชาชนจากทั่วประเทศได้ร่วมกันบริจาคสิ่งของและเงินช่วยเหลือ บางพื้นที่ได้รับความช่วยเหลือจากมูลนิธิที่นำแพยาง เรือ และอุปกรณ์กู้ชีพเข้าสนับสนุนภารกิจของเจ้าหน้าที่ ชาวบ้านในชุมชนที่ได้รับผลกระทบต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แม้จะเผชิญสถานการณ์ยากลำบาก

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งฟื้นฟูและซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภค เช่น ระบบไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ และเส้นทางคมนาคมที่ถูกตัดขาด พร้อมทั้งเตรียมมาตรการรับมือน้ำท่วมซ้ำซากที่อาจเกิดขึ้นในฤดูฝนถัดไป

ความเสียหายทางเศรษฐกิจและผลกระทบต่อวิถีชีวิต

เบื้องต้นมีการประเมินว่า พื้นที่เกษตรกรรมได้รับความเสียหายมากกว่า 50,000 ไร่ โดยเฉพาะนาข้าว ผลไม้ และสวนผักที่อยู่ในช่วงให้ผลผลิต พ่อค้าแม่ค้าหลายรายสูญเสียรายได้ ร้านค้าต้องปิดกิจการชั่วคราว ตลาดสดหลายแห่งต้องย้ายที่จำหน่ายหรือหยุดให้บริการ

โรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่บางแห่งถูกน้ำท่วมเครื่องจักรและคลังสินค้า ส่งผลกระทบต่อการจ้างงานและห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาค ขณะที่ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคบางรายการเริ่มปรับตัวสูงขึ้นเพราะการขนส่งล่าช้า

นักเรียนต้องเรียนออนไลน์หรือหยุดเรียน เพราะโรงเรียนถูกน้ำท่วม ผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงได้รับความเดือดร้อนมากเป็นพิเศษ เพราะไม่สามารถเดินทางไปโรงพยาบาลหรือรับยารักษาโรคได้สะดวก

ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมเตือนว่า น้ำท่วมใหญ่รอบนี้อาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคระบาดที่มากับน้ำ เช่น โรคฉี่หนู โรคผิวหนัง และการปนเปื้อนของแหล่งน้ำดื่มในชุมชน

บทเรียนและมาตรการป้องกันระยะยาว

นักวิชาการและภาคประชาสังคมเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนและวางแผนบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบมากขึ้น ไม่ใช่เพียงมาตรการระยะสั้นขณะเกิดเหตุเท่านั้น แต่ควรมีแผนฟื้นฟูพื้นที่เสี่ยงถาวร เพิ่มระบบเตือนภัยล่วงหน้า ขุดลอกคูคลองและแม่น้ำอย่างต่อเนื่อง ปลูกป่าเสริมแนวป้องกันน้ำหลาก ตลอดจนส่งเสริมให้ชุมชนมีแผนรับมือภัยพิบัติที่เหมาะสมกับท้องถิ่น

การสร้างเขื่อนขนาดกลางและระบบระบายน้ำในเมืองใหญ่อาจเป็นทางออกระยะยาวที่ต้องพิจารณาควบคู่ไปกับการฟื้นฟูป่าต้นน้ำ การบริหารจัดการพื้นที่รับน้ำท่วม การพัฒนาเทคโนโลยีตรวจวัดน้ำฝน และระบบแจ้งเตือนภัยผ่านมือถือ

ภาคประชาชนควรติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางการอย่างใกล้ชิด ไม่ตื่นตระหนก และช่วยเหลือกันในชุมชนเพื่อลดผลกระทบหากเกิดวิกฤตซ้ำรอยในอนาคต

น้ำท่วมภาคเหนือครั้งนี้เป็นเครื่องเตือนใจว่า วิกฤตสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีผลต่อทุกชีวิต เราทุกคนจึงต้องร่วมมือกันเพื่อสร้างสังคมที่พร้อมรับมือกับภัยพิบัติในอนาคต


Don't miss a story

Subscribe to our email newsletter:

Don't worry we hate spam as much as you do

Related Articles

Business

Description

by Rana F.Sep. 28, 20162
Business

Description

by Rana F.Sep. 28, 20162
Business

Description

by Rana F.Sep. 28, 20162

Leave a reply