นโยบายของรัฐบาลกับการลดค่าครองชีพ

เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชน รัฐบาลไทยได้ประกาศชุดมาตรการด้านเศรษฐกิจและสังคมครอบคลุมอาหาร อสังหาริมทรัพย์ พลังงาน และบริการสาธารณสุข มิติเชิงรุกเหล่านี้มุ่งลดต้นทุนการดำเนินชีวิต พร้อมกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศอย่างยั่งยืน

1. ค่าขนส่งสาธารณะ

• รัฐบาลให้ส่วนลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า MRT-BTS และทางด่วน 10–15% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อจูงใจประชาชนใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ลดภาระค่าเดินทางรายวัน พร้อมขยายเส้นทางรถเมล์ฟรีในเขตเมืองหลัก

2. ค่าพลังงาน

• ปรับขึ้นเงินอุดหนุนค่าน้ำมันเชื้อเพลิงรายเดือนสำหรับรถยนต์ทั่วไป 3 บาทต่อลิตร และให้สิทธิลดค่าไฟฟ้า 5% สำหรับครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน

3. อาหารและสินค้าอุปโภคบริโภค

• โครงการ "ช้อปช่วยชาติ" เป้าราคาสินค้าปลีกพื้นฐาน เช่น ข้าวสาร น้ำมันพืช และไข่ไก่ ให้ลดราคา 5–10% โดยผู้ค้ารายย่อยได้รับสิทธิ์ยกเว้น VAT
• ขยายโครงการบัตรคนจนช่วยลดค่าสินค้าเร่งด่วน 50 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือน เพื่อสนับสนุนการจับจ่ายสินค้าในร้านชุมชน

4. ที่อยู่อาศัย

• ธนาคารรัฐประจำจังหวัดปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านเพื่อที่อยู่อาศัยครั้งแรกเหลือ 2% ต่อปี สำหรับวงเงินไม่เกิน 3 ล้านบาท ช่วยลดค่าผ่อนบ้านรายเดือนให้ผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง

5. สาธารณสุขและยา

• ยาขั้นพื้นฐานในบัญชียาหลักแห่งชาติ ให้บริการฟรีในโรงพยาบาลของรัฐ พร้อมสนับสนุนโครงการจัดหาเวชภัณฑ์และวัคซีนภูมิคุ้มกันเพิ่มเติมให้ครอบคลุมประชากรกลุ่มเสี่ยง

6. การดูแลผู้สูงอายุและผู้พิการ

• เพิ่มวงเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและผู้พิการอีก 500 บาทต่อเดือน เพื่อช่วยเหลือการดำรงชีวิตและค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้น

7. การติดตามผลและการประเมิน

• กระทรวงการคลังร่วมกับสภาพัฒน์ฯ จัดตั้งคณะทำงานติดตามผลกระทบต่อค่าครองชีพประชาชน พร้อมเผยแพร่รายงานผลทุกไตรมาส เพื่อปรับปรุงมาตรการให้ตรงจุด

สรุปได้ว่า นโยบายลดค่าครองชีพของรัฐบาลผสมผสานมาตรการหลายด้าน ตั้งแต่พลังงาน อาหาร ที่อยู่อาศัย จนถึงสาธารณสุข สะท้อนความตั้งใจในการบรรเทาความเดือดร้อน และกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากให้เติบโตควบคู่กัน