นโยบายการเงินไทยระยะยาวและการฟื้นตัว

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้กำหนดนโยบายการเงินระยะยาวเพื่อรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิด-19 โดยมุ่งเน้นการสร้างเสถียรภาพราคาสินค้าและบริการ การสนับสนุนการเข้าถึงสินเชื่อของภาคครัวเรือนและธุรกิจขนาดกลางย่อม (SMEs) และการรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินผ่านการดำเนินมาตรการหลากหลายรูปแบบ

1. นโยบายอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

ธปท. ใช้อัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นเครื่องมือหลัก โดยปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายแบบค่อยเป็นค่อยไปตั้งแต่ปลายปี 2021 จากระดับต่ำสุด 0.50% โดดขึ้นเป็น 1.50% ในปี 2024 เพื่อคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบ 1–3% ต่อปี พร้อมติดตามผลกระทบต่อภาคครัวเรือนและธุรกิจ

2. มาตรการค้างชำระและการช่วยเหลือลูกหนี้

ธปท. ร่วมกับสถาบันการเงินออกมาตรการพักชำระหนี้ (Moratorium) และให้สินเชื่อเสริมสภาพคล่อง (Soft Loan) แก่ SMEs ในภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบหนัก รวมถึงมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ (Debt Restructuring) ให้ยืดเวลาผ่อนชำระและลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อบรรเทาภาระผู้ประกอบการ

3. การจัดการเงินบาทและเสถียรภาพการเงิน

• การใช้ FX Intervention เพื่อป้องกันความผันผวนค่าเงินบาทที่มีผลกระทบต่อการส่งออกและนำเข้า
• การกำกับดูแลสถาบันการเงินให้มีเงินกองทุนและสำรองสภาพคล่องเพียงพอผ่านมาตรฐาน Basel III
• การใช้มาตรการ Macroprudential เช่น Loan-to-Value (LTV) และ Debt-to-Income (DTI) เพื่อจำกัดการก่อหนี้ในภาคอสังหาริมทรัพย์และครัวเรือน

4. การพัฒนาตลาดเงินและตราสารหนี้

ส่งเสริมการออกพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวและตราสารหนี้ภาคเอกชนเพื่อขยายตลาดทุนในประเทศ นอกจากนี้ ธปท. เปิดตัวโครงการ Bond Info Hub เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและข้อมูลสถิติให้ผู้ลงทุนเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น

5. แนวทางฟื้นตัวระยะยาว

เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวอย่างยั่งยืน ธปท. ร่วมกับกระทรวงการคลังและสภาพัฒน์ฯ ใช้มาตรการการคลังควบคู่ เช่น การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาทักษะแรงงาน และการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อยกระดับศักยภาพการแข่งขันของประเทศในระยะยาว

6. การเฝ้าระวังและการสื่อสาร

ธปท. เน้นการสื่อสารเชิงรุก แจ้งข้อมูลสำคัญและแนวโน้มเศรษฐกิจผ่านรายงาน Monetary Policy Report และ Press Release ทุกรอบการประชุมกนง. เพื่อให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียวางแผนรับมือได้ทันสถานการณ์

สรุปแล้ว นโยบายการเงินระยะยาวของไทยมุ่งความสมดุลระหว่างการควบคุมเงินเฟ้อและการสนับสนุนการเติบโต โดยใช้เครื่องมือหลากหลายควบคู่ไปกับมาตรการการคลังและการพัฒนาตลาดทุน เพื่อรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะยาวอย่างยั่งยืน