ทำไมดวงจันทร์ถึงมีด้านมืด
ดวงจันทร์มีด้านหนึ่งที่เราไม่เคยเห็นจากโลก เรียกกันทั่วไปว่า “ด้านมืดของดวงจันทร์” ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ด้านนั้นไม่ได้มืดตลอดเวลา แต่เรียกเช่นนี้เพราะมันไม่เคยหันหน้ามาทางโลกเลย
สาเหตุที่ดวงจันทร์มีด้านที่ไม่เคยหันมาทางโลก เป็นผลจากปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “tidal locking” หรือการหมุนรอบตัวเองเท่ากับรอบที่โคจรรอบโลกหนึ่งรอบ นั่นหมายความว่าในขณะที่ดวงจันทร์โคจรรอบโลกหนึ่งครั้ง มันก็หมุนรอบตัวเองหนึ่งครั้งพอดี ทำให้ด้านเดียวของดวงจันทร์หันเข้าหาโลกตลอดเวลา
สรุปประเด็นสำคัญ
- ดวงจันทร์ถูกล็อกแรงโน้มถ่วงกับโลก จึงหันด้านเดียวเข้าหาโลกเสมอ
- ด้านมืดของดวงจันทร์ได้รับแสงจากดวงอาทิตย์เช่นเดียวกับด้านที่หันมาโลก
- นักบินอวกาศไม่เคยได้เหยียบด้านมืดของดวงจันทร์จนถึงปัจจุบัน

ในปี 1959 ยานอวกาศของโซเวียตชื่อ Luna 3 เป็นยานลำแรกที่สามารถถ่ายภาพด้านมืดของดวงจันทร์ได้ และเผยให้เห็นสภาพพื้นผิวที่แตกต่างจากด้านที่เรามองเห็นจากโลกอย่างชัดเจน โดยด้านมืดมีภูเขาสูงและหลุมอุกกาบาตมากกว่าด้านที่หันมาทางโลก
ภารกิจสำรวจในอนาคต
ปัจจุบันหลายประเทศวางแผนสำรวจและส่งยานไปยังด้านมืดของดวงจันทร์ รวมถึงภารกิจ Chang’e 4 ของจีน ที่ได้ลงจอดสำเร็จในปี 2019 นับเป็นก้าวสำคัญของการศึกษาพื้นที่ซึ่งเราไม่สามารถมองเห็นได้จากโลก
แม้จะเรียกว่าด้านมืด แต่ในความจริง มันมีแสง มีพลัง และยังเป็นพื้นที่ลึกลับที่รอการค้นพบ
ด้านมืดของดวงจันทร์เป็นสัญลักษณ์ของสิ่งที่เรายังไม่รู้และยังไม่ได้สำรวจ มันเตือนให้มนุษย์ไม่หยุดตั้งคำถาม และกระตุ้นให้เกิดความก้าวหน้าในวิทยาศาสตร์อวกาศ เพื่อที่จะวันหนึ่งเราจะได้รู้จักดวงจันทร์ของเราครบทั้งดวง
- การหมุนรอบตัวเองของดวงจันทร์เท่ากับการโคจรรอบโลก
- ด้านมืดมีสภาพภูมิประเทศต่างจากด้านสว่าง
- มีภารกิจอวกาศที่กำลังสำรวจด้านมืดเพิ่มขึ้น
ความลึกลับของด้านมืดของดวงจันทร์ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้นักวิทยาศาสตร์และผู้คนทั่วโลกศึกษาค้นคว้า มันอาจจะไม่ใช่เรื่องเหนือธรรมชาติ แต่เป็นประตูบานหนึ่งที่เปิดไปสู่การเข้าใจจักรวาลมากยิ่งขึ้น
Don't miss a story
Subscribe to our email newsletter:
Don't worry we hate spam as much as you do



