กรุงเทพฯ ฝุ่น PM2.5 พุ่งสูงเกินมาตรฐานอีกครั้ง
ในช่วงเช้าของวันนี้ หลายพื้นที่ในกรุงเทพมหานครถูกปกคลุมด้วยหมอกควันหนาทึบจากฝุ่นละออง PM2.5 ซึ่งมีค่าระดับที่เกินมาตรฐานที่องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนด คือ 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ภาพถ่ายดาวเทียมแสดงให้เห็นถึงการสะสมของฝุ่นในชั้นบรรยากาศอย่างหนาแน่น โดยเฉพาะในเขตจตุจักร ลาดพร้าว บางเขน และบางพลัด ที่ค่าฝุ่นพุ่งเกิน 60 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ
กรมควบคุมมลพิษเผยว่า ปัจจัยที่ทำให้ค่าฝุ่น PM2.5 สูงขึ้น ได้แก่ การจราจรที่หนาแน่นในชั่วโมงเร่งด่วน การเผาในที่โล่งโดยเฉพาะรอบชานเมือง และลักษณะภูมิอากาศที่มีอากาศนิ่ง ไม่มีลมพัดพา ส่งผลให้ฝุ่นละอองไม่สามารถลอยขึ้นไปในชั้นบรรยากาศสูงได้ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ามีฝุ่นจากภาคตะวันตกเฉียงเหนือพัดเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพฯ เพิ่มความรุนแรงของสถานการณ์ในเช้านี้

ผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
- ทำให้เกิดการระคายเคืองตา คอ และจมูก
- กระตุ้นโรคหอบหืดให้รุนแรงขึ้นในเด็กและผู้สูงอายุ
- เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคปอดเรื้อรัง
- ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายลดลงหากได้รับฝุ่นในระดับสูงต่อเนื่อง
- มีความเชื่อมโยงกับอัตราการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มเสี่ยง
ในขณะเดียวกัน กรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประกาศใช้มาตรการฉุกเฉินเพื่อลดปริมาณฝุ่นละออง เช่น ฉีดละอองน้ำในจุดเสี่ยง เพิ่มจำนวนรถตรวจวัดฝุ่นเคลื่อนที่ ขอความร่วมมือจากผู้รับเหมาก่อสร้างให้ควบคุมฝุ่นในพื้นที่ก่อสร้าง และให้สถานศึกษาพิจารณางดกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงค่าฝุ่นสูง
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมแสดงความกังวลว่า มาตรการดังกล่าวยังเป็นเพียงการแก้ปัญหาระยะสั้นเท่านั้น จำเป็นต้องมีแนวทางระยะยาว เช่น การผลักดันนโยบายส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด การเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า และการจัดระบบขนส่งสาธารณะให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งการปลูกต้นไม้เพิ่มในเขตเมืองเพื่อช่วยดูดซับฝุ่น
ประชาชนควรติดตามสถานการณ์ผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ของกรมควบคุมมลพิษ หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งหากไม่จำเป็น และหากต้องออกนอกบ้านในช่วงที่ค่าฝุ่นสูง ควรสวมหน้ากาก N95 เพื่อป้องกันฝุ่นเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจโดยตรง โดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรัง
ฝุ่น PM2.5 ไม่เพียงส่งผลกระทบในด้านสุขภาพเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ เช่น การท่องเที่ยว ภาคบริการ และภาคแรงงาน การแก้ปัญหานี้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน เพื่อสร้างอนาคตที่มีอากาศสะอาดและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
Don't miss a story
Subscribe to our email newsletter:
Don't worry we hate spam as much as you do



