Balenciaga เปิดตัว Post-Apocalyptic จุดกระแสแฟชั่นแนวดิสโทเปีย
วงการแฟชั่นในปี 2025 สะเทือนอีกครั้งเมื่อ Balenciaga ภายใต้การนำของดีไซเนอร์หัวก้าวหน้า Demna Gvasalia เปิดตัวคอลเลกชัน Fall/Winter 2025 ด้วยธีมสุดท้าทาย “Post-Apocalyptic” หรือ “โลกหลังหายนะ” ที่ทั้งสะเทือนอารมณ์ หยาบกระด้าง และเปี่ยมด้วยความหมายเชิงสังคม-เทคโนโลยี จุดกระแส Dystopian Aesthetic หรือแฟชั่นแนวดิสโทเปียกลับมาอยู่แถวหน้าอีกครั้ง ท่ามกลางโลกที่กำลังเผชิญวิกฤติสภาพอากาศ สงครามข่าวสาร และความเหนื่อยล้าทางวัฒนธรรม
🔥 ฉากรันเวย์แห่งความสิ้นหวัง: แฟชั่นหรือคำเตือน?
โชว์คอลเลกชันนี้จัดขึ้นในสถานที่ปิดล้อมคล้ายเขาวงกต มืดทึบ มีแสงไฟสลัวส่องเฉพาะจุดให้เห็นการเคลื่อนไหวของนางแบบและเสื้อผ้าในระยะใกล้ ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนกำลังหลงทางในโลกหลังภัยพิบัติ Demna ตั้งใจออกแบบโชว์ให้สะท้อนความรู้สึก “ไม่มีทางเลือกที่ถูกต้อง” อันเป็นภาพสะท้อนของโลกยุคที่ผู้คนใช้ชีวิตอย่างไม่แน่ใจในทิศทางของตนเองเสียงดนตรีในโชว์เต็มไปด้วยเสียงกลไกแตกหัก เสียงสัญญาณฉุกเฉิน เสริมอารมณ์ความปั่นป่วนขณะเสื้อผ้าก็ถูกออกแบบให้ดูเหมือนผ่านศึก ผ่านการใช้งานหนัก และการเอาตัวรอดในโลกที่ทรุดโทรม

🛠 แฟชั่นที่ราวกับเครื่องป้องกันตัวในโลกอนาคต
ในคอลเลกชันนี้ Balenciaga ผสานดีไซน์ระหว่างแนว Techwear, Military และ Survival Gear เข้ากับโครงเสื้อผ้าแบบ Oversized ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ เสื้อโค้ทยาว กางเกงคาร์โก้ เสื้อกันหนาวเท็กซ์เจอร์หนา กระเป๋าหนักบึกบึน และเสื้อคลุมที่คล้ายเกราะวัสดุที่ใช้ เช่น ผ้าไนลอนผสมเคฟลาร์ (Kevlar), ผ้ายืดกันไฟ, พลาสติกรีไซเคิลจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเศษซากอุตสาหกรรม ทำให้เสื้อผ้าไม่ได้เป็นเพียงเครื่องแต่งกาย แต่กลายเป็น “อาวุธทางสไตล์” ที่พร้อมจะรับมือโลกที่ไม่แน่นอนสีหลักในคอลเลกชัน ได้แก่ เทาเถ้าถ่าน, ดำด้าน, เขียวนีออนเป็นพิษ และ แดงเตือนภัย — สีที่ไม่ได้มีเพื่อความงาม แต่เป็นภาษาภาพในการเล่าเรื่องของสภาวะโลกที่กำลังพังทลาย
♻ สุนทรียะที่ไม่ละเลยความยั่งยืน
แม้รูปลักษณ์ภายนอกจะดูแข็งกร้าวและแฝงความมืดหม่น แต่ภายใต้ชุดเกราะเหล่านั้น Balenciaga แฝงแนวคิด “Sustainable Apocalypse” หรือการอยู่รอดอย่างมีจริยธรรมในโลกที่เต็มไปด้วยขยะและซากปรักหักพัง หลายชุดในคอลเลกชันนี้ผลิตจากวัสดุอัพไซเคิล เช่น อวนจับปลาที่ถูกทิ้ง, เส้นใยจากเสื้อเก่า, หรืออลูมิเนียมจากโครงสร้างพังเสียหายแม้จะมีรูปลักษณ์ “พังๆ” แต่ทุกชิ้นผ่านการออกแบบทางวิศวกรรมให้ทนทาน ใช้งานได้นาน บ่งบอกว่าแฟชั่นในอนาคตไม่ได้เน้นการเปลี่ยนบ่อย แต่เน้นการ “รอดให้ได้”
🌐 กระแสตอบรับ: เสียงชื่นชมและคำวิจารณ์
คอลเลกชันนี้ได้รับเสียงชื่นชมจากสื่อแฟชั่นระดับโลกว่าเป็น “งานศิลป์เชิงเสียดสี” และ “บทกวีแห่งความปั่นป่วนในโลกดิจิทัล” ขณะเดียวกันก็มีกระแสในโลกออนไลน์ที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าบางลุคดู “overdone” และขาดความสดใหม่ เพราะ Demna เคยนำเสนอแนวคิดโลกแตกมาแล้วหลายครั้งแม้กระนั้น กระแส Post-Apocalyptic Aesthetic ก็กลับมาอยู่ในกระแสหลักอีกครั้ง ตั้งแต่ TikTok ไปจนถึงรันเวย์เมืองอื่น ๆ เช่น London, Tokyo และ New York ที่เริ่มหยิบเอาสไตล์ “รอดตายแต่แฟชั่นจัดเต็ม” มาเล่นกันอย่างจริงจัง
📌 สรุป: แฟชั่นคือภาษาของโลกยุคสิ้นหวัง
Balenciaga กับคอลเลกชัน “Post-Apocalyptic” เป็นมากกว่างานแฟชั่นโชว์ — มันคือการแสดงออกทางการเมือง ทางสังคม และความวิตกกังวลเชิงวัฒนธรรมผ่านเนื้อผ้า การออกแบบ และการจัดแสดง ทุกองค์ประกอบในคอลเลกชันนี้สะท้อนถึงคำเตือนถึงอนาคตของโลกใบนี้อย่างตรงไปตรงมา และบางครั้ง อาจตรงเกินกว่าที่ใครอยากได้ยินแต่ไม่ว่าจะรักหรือเกลียด สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ Balenciaga ได้ปลุกโลกแฟชั่นให้ตื่นจากความฝัน และมองโลกใบนี้อย่างที่มันเป็น: เปราะบาง แต่ยังมีความหวัง… หากเราตัดสินใจ “รอด” ด้วยความคิดสร้างสรรค์
Don't miss a story
Subscribe to our email newsletter:
Don't worry we hate spam as much as you do



