Share Tweet Pin it

อนาคตการเมืองไทยในสายตาคนรุ่นใหม่


“การเมืองคือเรื่องไกลตัว” ประโยคนี้อาจใช้ได้ในอดีต แต่ไม่ใช่สำหรับคนรุ่นใหม่ไทยในวันนี้ เมื่อสังคมก้าวเข้าสู่ยุคข้อมูลข่าวสารไร้พรมแดน ความตื่นตัวทางการเมืองในหมู่คนหนุ่มสาวจึงกลายเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญที่กำหนดทิศทางการเมืองไทยทั้งในปัจจุบันและอนาคต

จากการเคลื่อนไหวบนท้องถนน เวทีอภิปราย ไปจนถึงการสร้างแพลตฟอร์มทางการเมืองออนไลน์ คนรุ่นใหม่กำลังส่งสัญญาณว่าพวกเขาไม่ต้องการเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์อีกต่อไป แต่พร้อมจะเป็นเจ้าของอนาคตทางการเมืองด้วยมือของตนเอง

ทำไมคนรุ่นใหม่ลุกขึ้นมาสนใจการเมือง?

หลายงานวิจัยและโพลความคิดเห็นพบว่า ความไม่พอใจต่อโครงสร้างการเมืองเดิมคือหนึ่งในแรงผลักสำคัญ คนรุ่นใหม่มองเห็นปัญหาที่สืบเนื่องมาหลายทศวรรษ ทั้งระบบอุปถัมภ์ การซื้อเสียง การผูกขาดอำนาจโดยนักการเมืองกลุ่มเดิม และการขาดความโปร่งใสที่ทำให้การใช้งบประมาณมักตกอยู่ในเงามืด

เมื่อโครงสร้างการเมืองแบบเดิมไม่ตอบโจทย์ยุคสมัย และไม่สอดคล้องกับค่านิยมความเท่าเทียม สิทธิเสรีภาพ และความโปร่งใสที่คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญ พลังเสียงของพวกเขาจึงเริ่มกลายเป็นตัวแปรสำคัญ ทั้งในสนามเลือกตั้งระดับชาติและท้องถิ่น

โซเชียลมีเดีย : อาวุธและเวทีของคนรุ่นใหม่

ต่างจากคนรุ่นก่อนที่ต้องอาศัยเวทีชุมนุมหรือสื่อกระแสหลักในการสื่อสาร คนรุ่นใหม่มี “โซเชียลมีเดีย” เป็นเวทีส่วนตัวและอาวุธสำคัญในการขับเคลื่อนการเมือง ตั้งแต่การตั้งคำถามต่อผู้มีอำนาจ การกระจายข้อมูลข่าวสารที่ถูกซุกซ่อน ไปจนถึงการสร้างวาทกรรมใหม่ ๆ ที่ท้าทายโครงสร้างเดิม

หลายครั้งปรากฏการณ์บนโซเชียลมีเดียยังสะท้อนอำนาจต่อรองได้จริง เช่น การรณรงค์ #ไม่เลือกไม่รู้ หรือ #โหวตเพื่ออนาคต ที่ปลุกคนรุ่นใหม่ให้ลุกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงสัญลักษณ์ที่พรรคการเมืองดั้งเดิมไม่อาจมองข้ามได้อีกต่อไป

ความหวังกับความเป็นจริง : ช่องว่างที่ต้องเติมเต็ม

แม้พลังของคนรุ่นใหม่จะชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ แต่ความเป็นจริงทางการเมืองไทยยังเต็มไปด้วยข้อจำกัด ทั้งระบบเลือกตั้งที่ยังเปิดโอกาสให้ทุนการเมืองขนาดใหญ่ได้เปรียบ กลไกกฎหมายที่ยังเอื้อต่อการสืบทอดอำนาจ และวัฒนธรรมการเมืองบางอย่างที่ฝังรากในท้องถิ่น

ขณะเดียวกัน เสียงของคนรุ่นใหม่ยังแตกออกเป็นหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มนักกิจกรรม กลุ่มผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งแบบใหม่ กลุ่มที่เข้ามาสร้างพรรคการเมืองทางเลือก และกลุ่มคนรุ่นใหม่ในพรรคใหญ่เดิมซึ่งพยายามเปลี่ยนโครงสร้างจากภายใน

คำถามสำคัญคือ พลังเหล่านี้จะสามารถประสานกันได้มากน้อยแค่ไหน เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างจริง ๆ แทนที่จะถูกกลืนไปในวังวนการเมืองแบบเดิม

นักรัฐศาสตร์หลายคนชี้ว่า หากคนรุ่นใหม่ต้องการเห็นการเมืองไทยที่โปร่งใส เป็นธรรม และเท่าเทียมจริง ๆ พวกเขาจำเป็นต้องก้าวข้ามบทบาท “ผู้เรียกร้อง” ไปสู่ “ผู้ลงมือทำ” มากขึ้น ทั้งในรูปแบบผู้สมัครรับเลือกตั้ง นักการเมืองท้องถิ่น นักนโยบาย หรือแม้กระทั่งนักสื่อสารสาธารณะที่สร้างพื้นที่ให้ประชาชนเข้าใจประเด็นการเมืองได้อย่างรอบด้าน

อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การสร้างวัฒนธรรมการเมืองที่ถกเถียงกันได้โดยไม่แตกหัก เพราะแม้คนรุ่นใหม่จะเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพ แต่การเมืองในโลกความจริงย่อมเต็มไปด้วยความเห็นต่างที่ต้องหาทางอยู่ร่วมกันได้ด้วยหลักการประชาธิปไตย

ภาพการเมืองไทยในอนาคตอาจยังไม่ชัดเจน แต่สิ่งที่ชัดขึ้นทุกวันคือ พลังของคนรุ่นใหม่จะเป็นตัวแปรที่เปลี่ยนเกมได้จริง ไม่ว่าจะในรูปแบบพรรคการเมืองใหม่ ผู้สมัครหน้าใหม่ หรือการสร้างเครือข่ายตรวจสอบอำนาจรัฐในมิติใหม่ ๆ

สุดท้ายแล้ว อนาคตการเมืองไทยจะเดินไปในทิศทางใด อาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับนักการเมืองรุ่นเก่าเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ขึ้นอยู่กับว่าคนรุ่นใหม่จะสานต่อพลัง ความหวัง และความเชื่อมั่นในประชาธิปไตยได้ยาวนานเพียงใด และพร้อมจะลงมือเปลี่ยนแปลงด้วยตนเองหรือไม่


Don't miss a story

Subscribe to our email newsletter:

Don't worry we hate spam as much as you do

Related Articles

Business

Description

by Rana F.Sep. 28, 20162
Business

Description

by Rana F.Sep. 28, 20162
Business

Description

by Rana F.Sep. 28, 20162

Leave a reply