Share Tweet Pin it

พรรคการเมืองใหม่มาแรง โพลล่าสุดสะเทือนพรรคใหญ่


ในห้วงเวลาที่การเมืองไทยกำลังขยับเข้าใกล้จุดเปลี่ยนสำคัญ ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนหรือ “โพล” ล่าสุดได้ส่งสัญญาณที่น่าจับตาอย่างยิ่ง เมื่อคะแนนนิยมของพรรคการเมืองใหม่เริ่มขยับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนถึงบรรยากาศทางการเมืองที่กำลังเกิดแรงกระเพื่อมครั้งใหม่ และอาจสร้างแรงสะเทือนให้กับพรรคใหญ่ที่ครองอำนาจและครองใจประชาชนมานานหลายทศวรรษ

ผลโพลช่วงกลางปีนี้ที่หลายสำนัก เช่น นิด้าโพล ซูเปอร์โพล หรือมหาวิทยาลัยราชภัฏหลายแห่ง ร่วมกันเผยแพร่ตรงกันว่า กลุ่มประชาชนที่ให้การสนับสนุนพรรคใหม่ หรือกลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกพรรคใด มีสัดส่วนรวมกันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบางตัวเลขสูงถึงเกือบ 40% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ขณะที่พรรคใหญ่หลายพรรค แม้จะยังครองคะแนนเสียงเป็นอันดับต้น ๆ แต่ก็เริ่มแสดงอาการ “เสียฐานเสียงเดิม” ไปบางส่วน ซึ่งนักวิเคราะห์ชี้ว่า นี่อาจเป็นสัญญาณชัดเจนว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งกำลังโหยหาความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่แท้จริง

การเมือง “เก่า” ในสายตาประชาชน

ปรากฏการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะพรรคใหม่มีนโยบายที่แตกต่างหรือแคมเปญสื่อสารที่ทันสมัยเท่านั้น หากแต่ส่วนหนึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเบื่อหน่ายของประชาชนที่มีต่อ “การเมืองเก่า” ที่ยังวนเวียนอยู่กับปัญหาความขัดแย้งภายในพรรค ความไม่โปร่งใสในการจัดสรรงบประมาณ และการแย่งชิงอำนาจที่มักซ้ำรอยเดิม แม้จะมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น แต่โครงสร้างและวัฒนธรรมทางการเมืองยังคงเดิม ไม่ตอบสนองต่อความคาดหวังของประชาชน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเห็นการเมืองไทยยกระดับมาตรฐานทั้งในเชิงนโยบายและจริยธรรมทางการเมือง

นอกจากนี้ การเปิดพื้นที่ของสังคมออนไลน์และกระแสโซเชียลมีเดีย ก็ทำให้พรรคการเมืองใหม่มีช่องทางสื่อสารที่หลากหลายและตรงเป้าหมายมากขึ้น พรรคที่เข้าใจการใช้โซเชียลแพลตฟอร์ม จะสามารถสร้างฐานเสียงได้กว้างขวางกว่าพรรคใหญ่บางพรรคที่ยังคงยึดรูปแบบหาเสียงแบบดั้งเดิม ซึ่งอาจไม่เพียงพออีกต่อไปในยุคที่คนรุ่นใหม่มีข้อมูลอยู่ในมือและตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว

พรรคหน้าใหม่ : แรงหนุนจากคนรุ่นใหม่และกลุ่มฐานเสียงกลางเมือง

“พรรคประชาชน” ที่กำลังถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในโซเชียล เป็นตัวอย่างหนึ่งของพรรคการเมืองใหม่ที่ใช้กระแสโซเชียลมีเดียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลโพลหลายสำนักชี้ตรงกันว่าพรรคนี้มีแนวโน้มได้รับเสียงสนับสนุนจากคนรุ่นใหม่ในเมืองใหญ่และกลุ่มชนชั้นกลางที่กำลังมองหาทางเลือกใหม่ ๆ ทางการเมือง หัวหน้าพรรคได้ออกมาแถลงการณ์ว่ากำลังวางเป้าหมายลงสมัครครบทุกเขตทั่วประเทศ พร้อมชูนโยบายโปร่งใส ลดอำนาจทุนผูกขาด และกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น

ปรากฏการณ์นี้ยิ่งชัดเจนเมื่อเปรียบเทียบกับโพลก่อนหน้านี้ที่คะแนนนิยมของพรรคใหญ่บางพรรคลดลงเล็กน้อย แต่กลุ่ม “ยังไม่ตัดสินใจเลือกใคร” หรือ “จะเลือกพรรคใหม่” กลับพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าแม้พรรคใหม่ยังต้องเจอกับอุปสรรคใหญ่ในสนามเลือกตั้งจริง ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างกติกาการเลือกตั้งหรือเครือข่ายทุนที่จำเป็นต่อการหาเสียง แต่แรงสนับสนุนเชิงสัญลักษณ์ครั้งนี้ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะมันสะท้อนให้เห็น “กระแสต้องการเปลี่ยนแปลง” ที่อาจพลิกสมดุลของอำนาจทางการเมืองในระยะยาว

พรรคใหญ่ : เสียงสะเทือนที่ไม่ควรมองข้าม

ขณะเดียวกัน พรรคใหญ่ที่เคยเป็นหัวเรือหลักของการเมืองไทยยังคงแสดงความมั่นใจว่าฐานเสียงดั้งเดิมยังเหนียวแน่นอยู่ โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทหรือจังหวัดที่มีเครือข่าย ส.ส. เดิมคอยดูแลพื้นที่อย่างเข้มแข็ง แต่เมื่อเปรียบเทียบสัดส่วนคะแนนนิยมที่ลดลงทีละน้อยในหลายโพล พรรคใหญ่เริ่มส่งสัญญาณชัดเจนว่าจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์การหาเสียงและการสื่อสารกับประชาชนมากขึ้น เพื่อไม่ให้เสียพื้นที่ให้พรรคใหม่ หรือกลุ่มผู้สมัครอิสระที่เริ่มเข้ามาแทรกในหลายเขต

ปัญหาอีกประการที่พรรคใหญ่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ “ภาพลักษณ์ความขัดแย้งภายใน” ที่อาจบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชน โดยเฉพาะเมื่อเกิดกระแสข่าวการแตกกลุ่มหรือการต่อรองตำแหน่งภายในพรรค ปรากฏการณ์เหล่านี้ยิ่งผลักให้กลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งรุ่นใหม่หันหลังให้พรรคใหญ่ และเลือกหาทางออกใหม่ ๆ ผ่านพรรคการเมืองทางเลือกที่สื่อสารถึงความโปร่งใส ความทันสมัย และการมีส่วนร่วมของประชาชน

โจทย์ใหญ่ : พรรคใหม่จะไปไกลได้จริงหรือ?

แม้กระแสโพลจะบ่งชี้ว่าพรรคใหม่ได้รับความนิยมสูงขึ้น แต่คำถามสำคัญที่นักรัฐศาสตร์และประชาชนยังคงจับตาคือ พรรคการเมืองหน้าใหม่จะสามารถเปลี่ยนคะแนนนิยมในโพลให้กลายเป็นจำนวน ส.ส. ในสภาได้มากน้อยเพียงใด เพราะสนามเลือกตั้งจริงยังมีปัจจัยเชิงโครงสร้างและกลไกทางการเมืองหลายด้านที่อาจเป็นอุปสรรค เช่น ระบบจัดสรรปาร์ตี้ลิสต์ที่ซับซ้อน เครือข่ายหัวคะแนนในระดับพื้นที่ ไปจนถึงข้อจำกัดด้านทุนและทรัพยากรที่พรรคใหม่มักเสียเปรียบพรรคเก่า

นอกจากนี้ พรรคใหม่ยังต้องเผชิญโจทย์การพิสูจน์ตัวเองในเชิงนโยบายและความเป็นเอกภาพภายในพรรค เพราะหากพรรคเติบโตเร็วเกินไปโดยไม่มีโครงสร้างที่เข้มแข็งพอ ความขัดแย้งภายในอาจเกิดขึ้นได้ง่าย จนกระทบความเชื่อมั่นของผู้สนับสนุนในระยะยาว

บทสรุป : สัญญาณเตือนและความหวัง

ปรากฏการณ์ “พรรคการเมืองใหม่มาแรง” อาจยังไม่ใช่จุดเปลี่ยนโดยทันที แต่ก็ถือเป็นสัญญาณเตือนที่ชัดเจนสำหรับพรรคการเมืองใหญ่ให้เร่งปรับกลยุทธ์ ฟังเสียงประชาชนมากขึ้น และลดการเมืองแบบอำนาจนิยมที่ประชาชนเบื่อหน่าย ขณะเดียวกัน ก็ถือเป็นความหวังสำหรับประชาชนที่ยังเชื่อมั่นว่าประชาธิปไตยสามารถพัฒนาได้ ถ้ามีทางเลือกใหม่ ๆ ที่ยึดหลักความโปร่งใสและการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง

ท้ายที่สุดแล้ว เสียงในโพลวันนี้อาจยังไม่ใช่คำตอบสุดท้ายในสนามเลือกตั้งครั้งหน้า แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ากำลังเขย่าเกมการเมืองไทยให้พรรคใหญ่ไม่อาจนิ่งนอนใจได้อีกต่อไป เพราะผู้มีสิทธิเลือกตั้งยุคนี้อาจไม่ยอมจำนนต่อทางเลือกเดิม ๆ อีกแล้ว — และนี่คือสัญญาณการเปลี่ยนผ่านที่อาจเกิดขึ้นจริงในอนาคตอันใกล้


Don't miss a story

Subscribe to our email newsletter:

Don't worry we hate spam as much as you do

Related Articles

Business

Description

by Rana F.Sep. 28, 20162
Business

Description

by Rana F.Sep. 28, 20162
Business

Description

by Rana F.Sep. 28, 20162

Leave a reply