ประเพณีแห่ปราสาทผึ้ง : ความวิจิตรแห่งศรัทธาเมืองสกลนคร
ในช่วงวันออกพรรษาของทุกปี จังหวัดสกลนครจะคึกคักไปด้วยขบวนแห่อันตระการตา ที่ประดับประดาด้วยงานศิลป์อันประณีตจากเทียนผึ้งสีทองอร่าม นี่คือ “ประเพณีแห่ปราสาทผึ้ง” หนึ่งในมรดกวัฒนธรรมอีสานที่สืบทอดกันมายาวนานกว่า 100 ปี และยังคงส่องประกายให้เห็นถึงพลังศรัทธา ความคิดสร้างสรรค์ และจิตวิญญาณของชุมชนที่ผูกพันแน่นแฟ้นกับพระพุทธศาสนา
รากเหง้าของประเพณี : ความเชื่อแห่งการส่งบุญ
“ปราสาทผึ้ง” คือ ปราสาทจำลองที่ทำขึ้นจากเทียนขี้ผึ้งหรือต้นกล้วยไม้ไผ่ ประดับด้วยขี้ผึ้งแกะสลักเป็นลวดลายไทยอันวิจิตรงดงาม ตามความเชื่อโบราณ ชาวอีสานเชื่อว่าการถวายปราสาทผึ้งในวันออกพรรษาเป็นการส่งบุญกุศลไปถึงบรรพบุรุษที่ล่วงลับ รวมถึงเป็นการน้อมถวายเป็นพุทธบูชาเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ดวงวิญญาณได้รับการปลดปล่อยจากทุกข์ภัย
คำว่า “ผึ้ง” ในที่นี้สื่อถึง “ขี้ผึ้ง” ซึ่งมีคุณสมบัติให้แสงสว่าง เช่นเดียวกับแสงธรรมที่ส่องทางจิตใจ ดังนั้นการถวายปราสาทผึ้งจึงเปรียบได้กับการถวายแสงสว่างทางธรรม
วิถีงานบุญที่งดงามและร่วมแรงร่วมใจ
งานแห่ปราสาทผึ้งที่สกลนครจะจัดขึ้นในคืนวันออกพรรษา โดยชุมชนต่าง ๆ จะช่วยกันสร้างปราสาทผึ้งประจำหมู่บ้านของตน เริ่มตั้งแต่การออกแบบโครงสร้าง การแกะสลักขี้ผึ้ง การประดับไฟ และการจัดเครื่องสักการะ ภายในขบวนจะมีขบวนฟ้อนรำดนตรีพื้นบ้าน ขบวนกลองยาว และการแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ร่วมกันสร้างบรรยากาศงานบุญให้ครึกครื้นและเปี่ยมมนต์ขลัง
ชาวบ้านเชื่อว่าหากได้มีส่วนร่วมทำปราสาทผึ้ง จะเกิดบุญกุศลใหญ่ และยังเป็นการสืบสานภูมิปัญญางานหัตถศิลป์ที่คนรุ่นใหม่จะได้เรียนรู้และภาคภูมิใจในรากเหง้าวัฒนธรรมของตน

ความวิจิตรที่ดึงดูดสายตาผู้คน
ความพิเศษของปราสาทผึ้งอยู่ที่ความละเอียดอ่อนของงานแกะสลักขี้ผึ้งซึ่งมีทั้งลายกนก รูปพญานาค ลายดอกไม้ และลวดลายพุทธศิลป์ประดับอยู่รอบโครงปราสาท ในบางปีปราสาทผึ้งอาจมีความสูงกว่า 10 เมตร บางชุมชนสร้างเป็นเรือปราสาทผึ้งจำลอง พระธาตุ หรือสัตว์หิมพานต์ ที่สื่อถึงเรื่องราวตามตำนานพุทธศาสนา
เมื่อถึงเวลาแห่ขบวน ปราสาทผึ้งจะถูกจุดไฟหรือประดับไฟให้เรืองรองในยามค่ำคืน กลายเป็นภาพที่วิจิตรตระการตาและเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร สร้างความประทับใจให้แก่ผู้มาเยือนทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ
เชื่อมโยงศรัทธากับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
ปัจจุบัน ประเพณีแห่ปราสาทผึ้งไม่ใช่เพียงงานบุญของชาวบ้านเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นเทศกาลท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสำคัญของจังหวัดสกลนครที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น ร้านค้าชุมชน ช่างฝีมือ และเยาวชนในพื้นที่ได้มีส่วนร่วมแสดงผลงานและฝึกฝนทักษะงานศิลป์ ภาครัฐและเอกชนต่างร่วมกันอนุรักษ์และพัฒนาประเพณีนี้ให้ยังคงยืนหยัดอย่างสง่างาม
บทสรุป : มรดกศรัทธาที่งดงามและยั่งยืน
ประเพณีแห่ปราสาทผึ้ง จึงไม่ได้เป็นเพียงงานบุญ แต่เป็นภาพแทนพลังศรัทธาและความสามัคคีของผู้คนที่ยังคงรักษาภูมิปัญญาดั้งเดิมไว้ได้อย่างงดงาม ตราบใดที่เสียงกลองยาวยังดังกึกก้องบนถนนเมืองสกล เสียงหัวเราะและแรงใจของชุมชนยังคงหลอมรวมกันสร้างปราสาทผึ้งให้สว่างไสว ความวิจิตรแห่งศรัทธานี้จะยังคงเปล่งประกายให้ลูกหลานได้ภาคภูมิใจและสืบสานต่อไปตราบนานเท่านาน
Don't miss a story
Subscribe to our email newsletter:
Don't worry we hate spam as much as you do



