ใช้หน้าจอมากเกินไปส่งผลอะไรต่อสายตา
ในยุคที่การทำงาน เรียนรู้ และความบันเทิงล้วนพึ่งพาอุปกรณ์ดิจิทัล การใช้หน้าจอเป็นเวลานานกลายเป็นเรื่องปกติของหลายคน ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต แต่รู้หรือไม่ว่า การจ้องหน้าจอมากเกินไปสามารถส่งผลต่อดวงตาของเราในหลายด้าน?
ปัญหาสายตาจากการใช้หน้าจอมีชื่อเรียกว่า “กลุ่มอาการสายตาจากการใช้งานคอมพิวเตอร์ (Computer Vision Syndrome – CVS)” ซึ่งเกิดจากการที่ดวงตาทำงานหนักและไม่ได้พักอย่างเพียงพอ
ผลกระทบจากการใช้หน้าจอเป็นเวลานาน

– ตาแห้ง แสบตา หรือรู้สึกเคืองตา เพราะกระพริบตาน้อยลง – มองภาพเบลอหรือมัวชั่วคราว หลังจ้องจอนาน – ปวดตา ปวดศีรษะ หรือรู้สึกตึงรอบเบ้าตา – การมองใกล้ติดต่อกันทำให้กล้ามเนื้อตาเกร็ง – เสี่ยงต่อภาวะสายตาสั้นในเด็กที่ใช้หน้าจอบ่อย
สรุปประเด็นสำคัญ
- การใช้หน้าจอนานเกินไปอาจทำให้เกิด CVS หรืออาการเมื่อยล้าทางสายตา
- ปัญหาสายตาจากหน้าจอพบได้ในทุกวัย โดยเฉพาะคนทำงานและนักเรียน
- หากไม่ปรับพฤติกรรม อาการอาจลุกลามเป็นปัญหาสายตาเรื้อรัง
นอกจากนี้ แสงสีฟ้าจากหน้าจอยังมีผลต่อวงจรการนอน หากใช้อุปกรณ์ดิจิทัลก่อนนอน อาจทำให้หลับยาก หลับไม่สนิท และส่งผลต่อสมองในระยะยาว
วิธีดูแลสายตาเมื่อจำเป็นต้องใช้หน้าจอ
– ใช้กฎ 20–20–20: ทุก 20 นาที มองสิ่งที่อยู่ห่างไป 20 ฟุต เป็นเวลา 20 วินาที – ปรับแสงหน้าจอให้เหมาะสม ไม่สว่างหรือมืดเกินไป – กระพริบตาบ่อย ๆ และหยอดน้ำตาเทียมเมื่อรู้สึกตาแห้ง – ตั้งหน้าจอให้อยู่ต่ำกว่าระดับสายตาเล็กน้อย เพื่อให้กล้ามเนื้อตาไม่ตึง – พักสายตาด้วยการลุกเดิน หรือมองวิวธรรมชาติระหว่างวัน
“ดวงตาคือหน้าต่างของโลก อย่าปล่อยให้เทคโนโลยีบั่นทอนสุขภาพตาโดยไม่รู้ตัว”
การดูแลสายตาควรเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพโดยรวม โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลที่เราหลีกเลี่ยงการใช้หน้าจอไม่ได้ การใช้เทคโนโลยีอย่างรู้เท่าทันและใส่ใจสุขภาพตาจะช่วยให้เราทำงานและใช้ชีวิตได้อย่างยั่งยืน
- ตรวจสายตาเป็นประจำทุกปี
- ใช้ฟิล์มกรองแสงหรือแว่นกรองแสงสีฟ้าหากใช้หน้าจอบ่อย
- พักสายตาเมื่อรู้สึกตึง เคือง หรือเริ่มมองภาพไม่ชัด
เทคโนโลยีคือเครื่องมือ แต่สุขภาพดวงตาคือสิ่งที่เราต้องรักษาไว้ด้วยความใส่ใจ
Don't miss a story
Subscribe to our email newsletter:
Don't worry we hate spam as much as you do



