สหรัฐฯ ส่งขีปนาวุธระยะไกลให้ยูเครน สะเทือนสมรภูมิสงคราม รัสเซีย-ยูเครน
สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐอเมริกาประกาศความช่วยเหลือทางทหารชุดใหม่ให้แก่ยูเครน โดยไฮไลท์สำคัญคือการส่งมอบขีปนาวุธพิสัยไกล ATACMS และระบบอาวุธทันสมัยอื่น ๆ เป็นครั้งแรก นับเป็นการยกระดับความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงระหว่างวอชิงตันกับเคียฟอย่างมีนัยสำคัญ ท่ามกลางสมรภูมิที่ยังคงคุกรุ่นในสงครามรัสเซีย-ยูเครนซึ่งยืดเยื้อมานานกว่า 2 ปี ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ส่งแรงสั่นสะเทือนไปทั่ววงการการทูตและยุทธศาสตร์โลก เพราะถือเป็นการสนับสนุนเชิงรุกมากที่สุดจากชาติตะวันตกต่อยูเครนนับตั้งแต่เกิดสงคราม
ขีปนาวุธ ATACMS ที่สหรัฐฯ ส่งให้ยูเครนมีระยะยิงกว่า 300 กิโลเมตร สามารถโจมตีเป้าหมายในเชิงยุทธศาสตร์ทั้งฐานทัพ อู่ซ่อมบำรุง สนามบิน และศูนย์ควบคุมของรัสเซียในพื้นที่ยึดครองหรือแนวหน้าของสมรภูมิ โดยระบบอาวุธรุ่นนี้เคยถูกใช้ในหลายปฏิบัติการสำคัญของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง และเป็นอาวุธที่รัสเซียกังวลมากที่สุดเนื่องจากยากต่อการสกัดกั้น

ปฏิกิริยาตอบโต้จากรัสเซียและยุโรป
หลังสหรัฐฯ ประกาศส่งขีปนาวุธ ระยะไกลให้ยูเครน กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียและเจ้าหน้าที่ระดับสูงออกแถลงการณ์ประณามทันที โดยระบุว่าเป็น “การยกระดับความขัดแย้ง” และขู่ตอบโต้ด้วยมาตรการทั้งทางทหารและเศรษฐกิจ รัสเซียชี้ว่าอาวุธรุ่นใหม่จะทำให้สงครามยืดเยื้อและมีโอกาสขยายวงสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน สั่งเสริมกำลังป้องกันภัยทางอากาศในแถบที่ถูกยึดครองและแนวชายแดนยูเครนอย่างเข้มข้น
ในฝั่งยุโรป หลายประเทศแสดงจุดยืนสนับสนุนยูเครน แต่ก็มีความกังวลว่าอาวุธทันสมัยเหล่านี้อาจทำให้สถานการณ์ในยุโรปตะวันออกซับซ้อนขึ้น เยอรมนี ฝรั่งเศส และอังกฤษประกาศจะเพิ่มความช่วยเหลือด้านข่าวกรอง การฝึกอบรม และระบบป้องกันภัยทางอากาศให้กับยูเครน พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายระมัดระวังการยกระดับความขัดแย้ง
ความได้เปรียบใหม่ของยูเครนในสนามรบ
ขีปนาวุธ ATACMS ที่สหรัฐฯ ส่งมอบสามารถเปลี่ยนดุลอำนาจในสมรภูมิยูเครนได้อย่างมีนัยสำคัญ เพราะช่วยให้ยูเครนสามารถโจมตีเป้าหมายลึกหลังแนวรบของรัสเซียได้โดยตรง เช่น คลังเก็บยุทโธปกรณ์ สะพานสำคัญ หรือเส้นทางลำเลียงกำลังบำรุง นักวิเคราะห์เชื่อว่าอาวุธนี้จะเพิ่มแรงกดดันให้รัสเซียต้องปรับยุทธวิธี ป้องกันและกระจายกองกำลังออกจากฐานที่มั่นหลัก
กองทัพยูเครนระบุว่า การได้รับขีปนาวุธระยะไกลนี้จะช่วยยับยั้งการรุกคืบของรัสเซียในหลายแนวรบ พร้อมเปิดทางให้ยูเครนวางแผนปฏิบัติการเชิงรุกเพื่อทวงคืนดินแดนที่สูญเสียไป ความหวังของประชาชนยูเครนเพิ่มขึ้นทันทีหลังมีข่าวความช่วยเหลือชุดนี้ โดยโซเชียลมีเดียในยูเครนและชาติตะวันตกเต็มไปด้วยเสียงสนับสนุนและภาพขีปนาวุธชุดใหม่เดินทางถึงแนวหน้า
แม้จะมีความได้เปรียบทางเทคโนโลยีมากขึ้น แต่อุปสรรคหลักของยูเครนยังคงอยู่ที่ขีดความสามารถในการผลิตกระสุนและอาวุธของตนเอง รวมถึงปริมาณกำลังพลที่ยังเป็นรองกองทัพรัสเซียอย่างมาก การรับมอบขีปนาวุธครั้งนี้จึงต้องได้รับการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์และข่าวกรองอย่างต่อเนื่องจากพันธมิตร
ผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์และความกังวลของโลก
นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงและการทูตหลายประเทศเตือนว่า การที่ชาติตะวันตกเพิ่มความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนอาจนำไปสู่ “สงครามพร็อกซี่” ที่ยืดเยื้อและซับซ้อนมากขึ้น เพราะรัสเซียเองอาจหันไปขอการสนับสนุนจากพันธมิตร เช่น อิหร่าน หรือเกาหลีเหนือ ขยายขอบเขตการสู้รบทั้งด้านเทคโนโลยีและกำลังพล
องค์การสหประชาชาติ (UN) และสันนิบาตยุโรป (EU) เรียกร้องให้ทุกฝ่ายระมัดระวังการยกระดับความขัดแย้ง และเร่งหาทางออกทางการทูตโดยเร็ว เพราะประชาชนในยูเครนและประเทศเพื่อนบ้านต้องเผชิญกับภัยสงครามและผลกระทบด้านมนุษยธรรมเพิ่มมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการส่งอาวุธทันสมัยเข้าสู่สมรภูมิอาจทำให้เกิดการแข่งขันด้านเทคโนโลยีทางทหารและ “อาวุธแพร่หลาย” ในภูมิภาคนี้ จนอาจกระทบเสถียรภาพความมั่นคงของยุโรปและโลกในระยะยาว
แนวโน้มและอนาคตของความขัดแย้ง
หลังจากการส่งมอบขีปนาวุธชุดใหม่ หลายฝ่ายมองว่าการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครนจะยิ่งห่างไกลออกไป การขยายความช่วยเหลือทางทหารจากตะวันตกอาจผลักดันให้แต่ละฝ่ายเพิ่มความแข็งกร้าวและยืดเยื้อการสู้รบ สถานการณ์จึงยังคงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและความเสี่ยงที่จะขยายวงกว้างออกไปนอกยูเครน
นักวิเคราะห์เสนอว่าประเทศต่าง ๆ ควรเร่งหาช่องทางเจรจาและสร้างพื้นที่กลางสำหรับการพูดคุยเพื่อลดความตึงเครียด เพราะหากปล่อยให้ความขัดแย้งยืดเยื้อ ความเสียหายทั้งด้านมนุษยธรรม เศรษฐกิจ และความมั่นคงระหว่างประเทศอาจขยายตัวมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในท้ายที่สุด การส่งขีปนาวุธระยะไกลจากสหรัฐฯ ไปยังยูเครนกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่โลกต้องจับตา ว่าสมรภูมิรัสเซีย-ยูเครนจะเดินหน้าไปในทิศทางใด และความหวังสันติภาพจะยังคงมีอยู่หรือไม่ในยุคของความขัดแย้งที่ซับซ้อนเช่นนี้
Don't miss a story
Subscribe to our email newsletter:
Don't worry we hate spam as much as you do



