Share Tweet Pin it

วิทยาศาสตร์เบื้องหลังสายรุ้ง


สายรุ้งเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นเมื่อแสงแดดตกกระทบละอองน้ำในอากาศ เกิดเป็นแถบสีโค้งงอที่น่าตื่นตา แต่อันที่จริงแล้ว สายรุ้งเป็นผลลัพธ์ของกฎฟิสิกส์พื้นฐานอย่างการหักเห การสะท้อน และการกระเจิงของแสงที่เรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่าทั้งหมด

การหักเหและการสะท้อนของแสง

เมื่อแสงแดดส่องผ่านละอองน้ำในบรรยากาศ แสงจะเปลี่ยนทิศทางหรือ "หักเห" ขณะเข้าสู่หยดน้ำ จากนั้นแสงจะสะท้อนภายในหยดน้ำนั้น และหักเหอีกครั้งเมื่อออกจากหยดน้ำ กระบวนการนี้จะทำให้แสงสีขาวจากดวงอาทิตย์แยกออกเป็น 7 สีตามความยาวคลื่น ได้แก่ แดง ส้ม เหลือง เขียว ฟ้า น้ำเงิน และม่วง

มุมของสายรุ้ง

สายรุ้งจะปรากฏในมุมประมาณ 42 องศาจากแนวตรงข้ามดวงอาทิตย์ หากดวงอาทิตย์อยู่สูงเกินไปในฟ้า สายรุ้งจะไม่สามารถปรากฏให้เห็นได้ จึงมักพบสายรุ้งในช่วงเช้าหรือเย็นหลังฝนตกใหม่ ๆ ซึ่งเป็นช่วงที่แสงมีมุมตกกระทบพอดี

  • แสงต้องส่องจากด้านหลังผู้สังเกตไปยังละอองน้ำ
  • ละอองน้ำจะสะท้อนและหักเหแสงกลับสู่สายตา
  • แต่ละสีของแสงจะโค้งออกในมุมต่างกันเล็กน้อย
สายรุ้งทุติยภูมิ

บางครั้งเราจะเห็นสายรุ้งซ้อนกันสองชั้น ชั้นที่สองเรียกว่าสายรุ้งทุติยภูมิ ซึ่งเกิดจากแสงสะท้อนภายในหยดน้ำสองครั้ง สีของสายรุ้งทุติยภูมิจะเรียงกลับด้านจากสายรุ้งหลัก และมีความสว่างน้อยกว่ามาก

สายรุ้งไม่ได้อยู่ที่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งในท้องฟ้าเสมอไป แต่เกิดจากการมองเห็นแสงสะท้อนที่มุมเฉพาะระหว่างแหล่งกำเนิดแสง ละอองน้ำ และสายตาของผู้สังเกต

สายรุ้งจึงไม่ใช่สิ่งที่สามารถ "เข้าไปหา" หรือ "สัมผัสได้" เพราะมันคือภาพที่เกิดจากแสงสะท้อนกลับมายังดวงตาของเราโดยเฉพาะ และจะหายไปเมื่อเงื่อนไขของแสงและน้ำในอากาศไม่เหมาะสม วิทยาศาสตร์เบื้องหลังสายรุ้งช่วยให้เราเข้าใจว่าแม้สิ่งที่ดูมหัศจรรย์ จะมีพื้นฐานมาจากธรรมชาติและฟิสิกส์ที่สามารถอธิบายได้อย่างน่าอัศจรรย์เช่นกัน


Don't miss a story

Subscribe to our email newsletter:

Don't worry we hate spam as much as you do

Related Articles

Business

Description

by Rana F.Sep. 28, 20162
Business

Description

by Rana F.Sep. 28, 20162
Business

Description

by Rana F.Sep. 28, 20162

Leave a reply