วัคซีนในผู้ใหญ่ที่ควรฉีดแต่หลายคนไม่รู้
เมื่อพูดถึงวัคซีน หลายคนอาจนึกถึงการฉีดในวัยเด็กเท่านั้น แต่ในความเป็นจริง วัคซีนสำหรับผู้ใหญ่ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะในยุคที่โรคระบาดใหม่ ๆ เกิดขึ้นได้เสมอ หรือภูมิคุ้มกันเดิมอาจลดลงเมื่ออายุมากขึ้น
ผู้ใหญ่หลายคนมองข้ามการฉีดวัคซีน เพราะคิดว่า “ฉีดครบแล้วตอนเด็ก” หรือ “โตแล้วไม่ต้องฉีด” ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดและอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อรุนแรงได้
วัคซีนที่แนะนำสำหรับผู้ใหญ่

– วัคซีนไข้หวัดใหญ่: ควรฉีดปีละ 1 ครั้ง เพราะไวรัสเปลี่ยนสายพันธุ์ทุกปี – วัคซีนบาดทะยัก-คอตีบ-ไอกรน (Tdap): ฉีดกระตุ้นทุก 10 ปี – วัคซีนงูสวัด: สำหรับผู้มีอายุ 50 ปีขึ้นไป – วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ: โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ หรือผู้มีโรคเรื้อรัง – วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี: หากยังไม่เคยได้รับ หรือมีพฤติกรรมเสี่ยง
สรุปประเด็นสำคัญ
- วัคซีนไม่ใช่แค่เรื่องของเด็ก แต่สำคัญกับผู้ใหญ่ไม่แพ้กัน
- บางโรค เช่น ไข้หวัดใหญ่ และปอดอักเสบ อาจรุนแรงในผู้สูงอายุ
- การฉีดวัคซีนช่วยลดโอกาสป่วย ลดภาระค่ารักษา และป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น
ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน หรือโรคหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาวัคซีนเพิ่มเติม เช่น วัคซีนโควิด-19 (กระตุ้น), วัคซีนไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนป้องกันปอดอักเสบ
คำแนะนำเพิ่มเติมในการฉีดวัคซีน
– ควรตรวจสอบประวัติวัคซีนเก่า หากจำไม่ได้ ควรเริ่มต้นฉีดใหม่ตามคำแนะนำแพทย์ – แจ้งแพทย์หากแพ้วัคซีนหรือยาบางชนิด – หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนัก 1–2 วันหลังฉีด
“ภูมิคุ้มกันที่ดี ไม่ได้เกิดจากโชคชะตา แต่มาจากการเตรียมตัวที่ถูกต้อง”
แม้ว่าจะไม่ได้ป่วยในตอนนี้ แต่การฉีดวัคซีนคือการป้องกันอนาคต วัคซีนบางตัวช่วยลดความรุนแรงของโรค และลดโอกาสแพร่เชื้อสู่ครอบครัว โดยเฉพาะผู้สูงอายุหรือเด็กเล็ก
- อย่ารอจนป่วยแล้วค่อยคิดถึงวัคซีน
- ตรวจสอบตารางวัคซีนประจำปีที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน
- วัคซีนบางชนิดมีบริการฟรีในสิทธิ์ประกันสังคมหรือบัตรทอง
เริ่มดูแลตัวเองให้มากขึ้นด้วยการฉีดวัคซีนที่เหมาะสม ไม่ใช่แค่ปกป้องตัวเอง แต่ยังปกป้องคนรอบตัวให้ปลอดภัยจากโรคร้ายแรงอีกด้วย
Don't miss a story
Subscribe to our email newsletter:
Don't worry we hate spam as much as you do



