Share Tweet Pin it

ยูเครน-รัสเซีย ยังตึงเครียด ส่งผลต่อราคาข้าวสาลี


ความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซียยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีวี่แววจะยุติ ซึ่งนอกจากจะสร้างผลกระทบทางการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคยุโรปตะวันออกแล้ว ยังกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานอาหารโลกอย่างรุนแรง โดยเฉพาะ "ข้าวสาลี" ที่เป็นหนึ่งในวัตถุดิบหลักของอาหารทั่วโลก ส่งผลให้ราคาข้าวสาลีในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว สร้างความวิตกกังวลในหมู่ประเทศผู้นำเข้าและประชาชนที่ต้องพึ่งพาข้าวสาลีในชีวิตประจำวัน

ยูเครนเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่ของโลก โดยมีบทบาทสำคัญในตลาดยุโรป เอเชีย และแอฟริกา เมื่อเกิดความไม่สงบขึ้น เส้นทางการขนส่งทั้งทางบกและทางทะเลก็ถูกปิดกั้นหรือทำงานได้อย่างไม่เต็มที่ ท่าเรือหลายแห่งถูกโจมตีหรือปิดการใช้งานเพื่อความปลอดภัย ในขณะที่เกษตรกรในพื้นที่ขัดแย้งไม่สามารถทำการเพาะปลูกหรือเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตามปกติ

ผลกระทบดังกล่าวส่งผลให้ราคาข้าวสาลีในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นกว่า 30% ภายในระยะเวลาไม่กี่เดือน ประเทศผู้นำเข้าหลายแห่ง เช่น อียิปต์ อินโดนีเซีย และบางประเทศในแอฟริกาต้องเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแป้งสาลีและขนมปัง ซึ่งเป็นอาหารหลักของประชาชน ส่งผลต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและสังคมภายในประเทศอย่างรุนแรง ในบางกรณีถึงขั้นเกิดการประท้วงและจลาจล

นอกจากนี้ รัสเซียซึ่งเป็นอีกหนึ่งประเทศผู้ผลิตข้าวสาลีรายใหญ่ ก็เผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากนานาชาติ ทำให้การส่งออกสินค้าทางการเกษตรไปยังประเทศคู่ค้าหลายแห่งถูกจำกัดหรือหยุดชะงัก ปัญหาการขนส่งระหว่างประเทศ การปิดน่านน้ำ การขาดแคลนเรือบรรทุกสินค้า รวมถึงความเสี่ยงจากการคว่ำบาตรทางการเงิน ล้วนส่งผลให้ปริมาณข้าวสาลีในตลาดโลกลดลงอย่างมาก

ผลกระทบในระดับโลก
  • ราคาข้าวสาลีในตลาดโลกสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
  • ประเทศกำลังพัฒนาที่พึ่งพาการนำเข้าข้าวสาลีประสบปัญหาความมั่นคงทางอาหาร
  • ต้นทุนของอุตสาหกรรมอาหารสัตว์และอาหารแปรรูปเพิ่มขึ้น
  • ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อในประเทศผู้นำเข้าทวีความรุนแรง
  • องค์กรระหว่างประเทศเตือนถึงความเสี่ยงของวิกฤตอาหาร

องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ได้ออกมาเตือนว่า ความขัดแย้งในยูเครนอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารทั่วโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคที่มีความเปราะบางอยู่แล้ว เช่น ซูดาน เอธิโอเปีย และเยเมน ที่มีประชากรจำนวนมากพึ่งพาข้าวสาลีนำเข้า การขาดแคลนอาหารจะยิ่งซ้ำเติมวิกฤตความอดอยากที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้าง

ขณะเดียวกัน ประเทศผู้ผลิตรายอื่น เช่น อินเดีย อาร์เจนตินา และออสเตรเลีย ต่างพยายามเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อชดเชยขาดแคลนจากยูเครนและรัสเซีย แต่ก็ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้ทันเวลา นอกจากนี้ สภาพอากาศที่ไม่แน่นอนและภัยแล้งยังคงเป็นปัจจัยที่กระทบต่อผลผลิตโดยตรง

สถานการณ์นี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนถึงผลกระทบของสงครามต่อเศรษฐกิจและสังคมในระดับโลก แม้จะเกิดขึ้นในภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่ง แต่เมื่อเกิดในจุดที่มีความสำคัญต่อห่วงโซ่อุปทานของโลก ก็สามารถก่อให้เกิดคลื่นสะเทือนทางเศรษฐกิจไปถึงอีกซีกโลกได้ทันที การรับมือกับสถานการณ์นี้จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากนานาชาติทั้งด้านการทูต การกระจายความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทาน และการส่งเสริมการผลิตภายในประเทศ


Don't miss a story

Subscribe to our email newsletter:

Don't worry we hate spam as much as you do

Related Articles

Business

Description

by Rana F.Sep. 28, 20162
Business

Description

by Rana F.Sep. 28, 20162
Business

Description

by Rana F.Sep. 28, 20162

Leave a reply