ผลสำรวจชี้วัยทำงานรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับ Work-Life Balance มากขึ้น
ผลสำรวจล่าสุดจากบริษัทวิจัยด้านทรัพยากรบุคคลเผยว่า คนวัยทำงานรุ่นใหม่ในประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 22–35 ปี ให้ความสำคัญกับการมีสมดุลชีวิตและการทำงาน (Work-Life Balance) มากกว่าปัจจัยด้านเงินเดือนหรือความมั่นคงในอาชีพ
ข้อมูลชี้ว่า กว่า 68% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า “เวลาเป็นสิ่งมีค่า” และต้องการเลือกงานที่ให้เวลาส่วนตัวมากพอสำหรับการพักผ่อน ทำกิจกรรมส่วนตัว หรือใช้เวลากับครอบครัว มากกว่าการทำงานหนักเพื่อแลกกับรายได้ที่สูงขึ้น
แนวโน้มการเลือกงานเปลี่ยนไป
สรุปประเด็นสำคัญ
- วัยทำงานรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับ Work-Life Balance มากขึ้น
- บริษัทที่ยืดหยุ่นเรื่องเวลาทำงานและการทำงานแบบ Hybrid ได้รับความสนใจสูง
- องค์กรที่เน้นวัฒนธรรมการดูแลสุขภาพจิตและสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีมักดึงดูดคนเก่งได้มากกว่า

จากการวิเคราะห์เชิงพฤติกรรมพบว่า แนวโน้มดังกล่าวสะท้อนการเปลี่ยนแปลงคุณค่าชีวิตของคนยุคใหม่ ที่มองว่า “การทำงานไม่ควรเป็นศูนย์กลางของชีวิตทั้งหมด” และเน้นการใช้ชีวิตอย่างมีความหมายควบคู่ไปกับความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
องค์กรต้องปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลง
บริษัทที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริหารงาน เช่น การอนุญาตให้ทำงานจากที่บ้าน (Work from Home), วันทำงานสั้นลง หรือให้พนักงานเลือกเวลาทำงานได้เอง จะมีโอกาสดึงดูดบุคลากรรุ่นใหม่และลดอัตราการลาออก
“องค์กรที่ให้ความยืดหยุ่นและเคารพเวลาส่วนตัวของพนักงานจะสร้างความผูกพันและประสิทธิภาพการทำงานได้ดีกว่า” — ผู้บริหารด้านทรัพยากรมนุษย์
ผลสำรวจนี้ยังชี้ให้เห็นว่า ผู้สมัครงานจำนวนมากให้ความสำคัญกับสวัสดิการ เช่น วันหยุดพักร้อนเพิ่มพิเศษ บรรยากาศการทำงานแบบไม่เคร่งเครียด รวมถึงความเข้าใจของผู้บริหารต่อความหลากหลายของชีวิตพนักงาน
- Work-Life Balance กลายเป็นปัจจัยอันดับต้น ๆ ในการเลือกงานของคนยุคใหม่
- องค์กรที่ไม่ปรับตัวเสี่ยงสูญเสียบุคลากรคุณภาพในระยะยาว
- แนวทางใหม่ ๆ เช่น 4-day work week หรือ remote working ถูกนำมาใช้มากขึ้นทั่วโลก
ในยุคที่คุณภาพชีวิตถูกมองว่าเท่าเทียมกับความสำเร็จในอาชีพ งานวิจัยชิ้นนี้สะท้อนว่าการสร้างสมดุลระหว่างงานและชีวิตกำลังกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ของแรงงานไทยยุคดิจิทัล
Don't miss a story
Subscribe to our email newsletter:
Don't worry we hate spam as much as you do



