ป้องกันโรคออฟฟิศซินโดรมแบบเข้าใจง่าย
“ออฟฟิศซินโดรม” กลายเป็นคำคุ้นหูในกลุ่มคนทำงานยุคใหม่ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องนั่งหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน หลายชั่วโมงต่อวัน อาการที่พบบ่อย ได้แก่ ปวดคอ บ่า ไหล่ ปวดหลัง ตึงกล้ามเนื้อ และบางคนถึงขั้นมีอาการชาภายในร่างกาย
แต่ข่าวดีก็คือ อาการเหล่านี้สามารถป้องกันได้ หากเราปรับพฤติกรรมการทำงานให้เหมาะสมตั้งแต่ต้น ไม่ต้องใช้ยา ไม่ต้องเข้าคลินิกแพง ๆ แค่เข้าใจหลักการพื้นฐาน ก็ช่วยให้ห่างไกลโรคนี้ได้ง่าย ๆ
สาเหตุหลักของออฟฟิศซินโดรม

– ท่านั่งผิด เช่น ก้มหน้าจอนาน ๆ ไม่พิงพนัก เกร็งไหล่ – ขาดการขยับร่างกาย นั่งติดโต๊ะนานเกินไป – ใช้อุปกรณ์ไม่เหมาะสม เช่น โต๊ะเก้าอี้ไม่พอดี ระดับหน้าจอไม่ถูกต้อง
สรุปประเด็นสำคัญ
- ออฟฟิศซินโดรมเกิดจากการใช้ร่างกายในท่าเดิมซ้ำ ๆ
- สามารถป้องกันได้ด้วยการปรับพฤติกรรมและสภาพแวดล้อมการทำงาน
- เริ่มจากการปรับท่านั่งและจัดโต๊ะทำงานให้ถูกต้อง
นอกจากการจัดโต๊ะและเก้าอี้ให้เหมาะสมแล้ว ควรปรับระดับหน้าจอคอมให้พอดีกับสายตา ใช้แป้นพิมพ์และเมาส์ในตำแหน่งที่สบายมือ เพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อเกิดความตึงเครียดต่อเนื่อง
วิธีป้องกันแบบเข้าใจง่าย
1. ลุกขึ้นเดินทุก 1 ชั่วโมง เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือด 2. ยืดกล้ามเนื้อบริเวณ คอ บ่า ไหล่ และข้อมือ วันละ 2–3 ครั้ง 3. หมั่นเปลี่ยนท่านั่ง เช่น สลับขา หรือใช้ลูกบอลนั่งแทนเก้าอี้ 4. หากเป็นไปได้ ใช้โต๊ะทำงานแบบปรับระดับ (Standing Desk)
“แค่ปรับพฤติกรรมเล็กน้อย ก็ช่วยให้คุณห่างไกลออฟฟิศซินโดรมได้มาก”
สำหรับผู้ที่มีอาการเริ่มต้น เช่น ตึงคอบ่า หรือปวดหลังช่วงท้ายวัน อย่ามองข้าม! เพราะหากปล่อยไว้อาจพัฒนาไปสู่ภาวะหมอนรองกระดูกเสื่อมหรือเส้นประสาทอักเสบได้
- ปรับเก้าอี้ให้สูงพอดีกับโต๊ะ และวางเท้าเต็มพื้น
- วางคีย์บอร์ดห่างจากขอบโต๊ะพอดี ไม่เกิน 15 ซม.
- เลือกใช้อุปกรณ์เสริม เช่น เมาส์แนวตั้ง หรือเบาะรองหลัง
โรคออฟฟิศซินโดรมอาจฟังดูเล็กน้อย แต่หากไม่ใส่ใจตั้งแต่แรก อาจสร้างผลเสียสะสมต่อสุขภาพในระยะยาวได้ ดังนั้น เริ่มป้องกันวันนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีกว่าในวันข้างหน้า
Don't miss a story
Subscribe to our email newsletter:
Don't worry we hate spam as much as you do



