บทบาทของอดีตนายกฯ Hun Sen และภาพของสงครามผ่านเกมอำนาจระหว่างเขากับ Thaksin ลูกสาว
ในวิกฤติความขัดแย้งชายแดนไทย–กัมพูชา ปี 2025 ชื่อของสมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้กลับมามีบทบาทสำคัญอย่างคาดไม่ถึง แม้เขาจะก้าวลงจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการ แต่เครือข่ายทางการเมืองและอิทธิพลที่สั่งสมมานานกว่า 30 ปี ยังคงส่งผลอย่างลึกซึ้งต่อทิศทางการตัดสินใจของกัมพูชา และโดยเฉพาะต่อสถานการณ์ความตึงเครียดกับไทย
ขณะเดียวกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ก็ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำรัฐบาลไทยในช่วงเวลาที่ประเทศกำลังเผชิญวิกฤติ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูลการเมืองระดับภูมิภาคนี้ถูกจับตามองอย่างมาก และถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของเกมอำนาจที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงกับความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้น
เกมอำนาจและการจัดวางยุทธศาสตร์
ฮุน เซน ถูกมองว่าเป็นผู้วางหมากยุทธศาสตร์ให้กับรัฐบาลปัจจุบันของกัมพูชา ทั้งในด้านการทูต การทหาร และการใช้ปฏิบัติการเชิงจิตวิทยาเพื่อสร้างแรงกดดันต่อไทย ขณะที่ฝั่งไทยเอง การนำของแพทองธารก็ต้องเผชิญกับความท้าทายในการรักษาสมดุลระหว่างการปกป้องอธิปไตยและการหลีกเลี่ยงสงครามเต็มรูปแบบ
สรุปประเด็นสำคัญ
- ฮุน เซน แม้พ้นตำแหน่ง แต่ยังคงมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของกัมพูชา
- แพทองธารต้องเผชิญกับการทดสอบความสามารถในการบริหารวิกฤติ
- ความสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูลการเมืองถูกมองว่าเป็นปัจจัยสำคัญของเกมอำนาจ

นักวิเคราะห์บางรายมองว่าการเคลื่อนไหวของฮุน เซน มีความเชื่อมโยงกับความพยายามสร้างบทบาทใหม่ในเวทีภูมิภาค โดยอาศัยสถานการณ์ขัดแย้งเป็นเวทีแสดงอิทธิพล ในขณะเดียวกัน ฝ่ายไทยก็มองว่าการตอบสนองอย่างเด็ดขาดจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ความแข็งแกร่งให้แก่ผู้นำรุ่นใหม่อย่างแพทองธาร
ภาพของสงครามในเชิงการเมือง
สงครามชายแดนครั้งนี้จึงไม่ได้ถูกมองเพียงในมิติทางทหาร แต่ยังเป็นเวทีประชันเชิงสัญลักษณ์ระหว่างอดีตผู้นำที่มีประสบการณ์และอิทธิพล กับผู้นำรุ่นใหม่ที่ต้องพิสูจน์ตัวเอง ภาพลักษณ์และการรับรู้ของสาธารณะในทั้งสองประเทศจึงมีบทบาทสำคัญต่อการกำหนดทิศทางของความขัดแย้ง
“ในสงครามทางการเมือง ภาพที่ปรากฏต่อสายตาประชาชนสำคัญพอ ๆ กับชัยชนะในสนามรบ”
คำกล่าวนี้สะท้อนว่าเกมอำนาจระหว่างฮุน เซน และตระกูลชินวัตร ไม่ได้จำกัดเพียงการวางกลยุทธ์ทางทหาร แต่รวมถึงการสร้างภาพและเรื่องราวที่ส่งผลต่อความรู้สึกของผู้คน
ความเสี่ยงและโอกาส
แม้ความตึงเครียดจะสร้างความเสี่ยงต่อสันติภาพในภูมิภาค แต่นักการทูตบางฝ่ายมองว่านี่อาจเป็นโอกาสสำหรับผู้นำทั้งสองฝั่งในการแสดงความสามารถทางการเจรจาและการจัดการวิกฤติ หากสามารถหาทางออกโดยไม่ใช้กำลัง การสร้างภาพผู้นำที่สามารถรักษาสันติภาพได้จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในเวทีโลก
- โอกาสในการสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกผ่านการเจรจาสำเร็จ
- ความเสี่ยงต่อการสูญเสียความเชื่อมั่นหากสถานการณ์บานปลาย
- ผลกระทบต่อบทบาทในเวทีการเมืองภูมิภาค
ในระยะยาว เกมอำนาจระหว่างฮุน เซน และแพทองธารจะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์การเมืองภูมิภาคในฐานะตัวอย่างของการต่อสู้ทั้งในและนอกสนามรบ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการเมืองและสงครามมักเดินเคียงคู่กัน และการรับรู้ของสาธารณะคือสนามรบที่ไม่ควรมองข้าม
Don't miss a story
Subscribe to our email newsletter
Don't worry we hate spam as much as you do



