นักเรียนสอบเข้ามหาวิทยาลัย ปีนี้แข่งขันสูงสุดในรอบ 5 ปี
ปีการศึกษา 2568 ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่การแข่งขันสอบเข้ามหาวิทยาลัยในประเทศไทยทวีความเข้มข้นสูงสุดในรอบ 5 ปี โดยเฉพาะในคณะที่ได้รับความนิยมสูง เช่น แพทยศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ นิติศาสตร์ และบริหารธุรกิจ ส่งผลให้ทั้งนักเรียน ผู้ปกครอง และโรงเรียนต่างต้องปรับกลยุทธ์การเตรียมตัวเพื่อให้สามารถฝ่าฟันการแข่งขันอันดุเดือดนี้ได้
ข้อมูลจากสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการเผยว่า มีนักเรียนเข้าสมัครสอบ TGAT/TPAT และวิชาสามัญรวมกันมากกว่า 480,000 คน ขณะที่จำนวนที่นั่งรับเข้ามีจำกัดเพียงประมาณ 110,000 ที่นั่งในระบบ TCAS ซึ่งหมายความว่ามีเพียง 1 ใน 4 ของผู้เข้าสอบเท่านั้นที่จะสามารถสอบติดในรอบแรกได้ ความตึงเครียดนี้ส่งผลให้บรรยากาศของการสอบทั่วประเทศเต็มไปด้วยความกดดันและความหวัง

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้การแข่งขันสูงขึ้น คือ การเปลี่ยนแปลงในระบบ TCAS ที่เน้นการคัดกรองผู้สมัครอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการเปิดรับนักศึกษาน้อยลงในหลายมหาวิทยาลัย เพื่อควบคุมคุณภาพการศึกษาในระยะยาว นอกจากนี้ กระแสความนิยมในการเรียนคณะเฉพาะทางที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี อนาคต และการดูแลสุขภาพ ทำให้จำนวนผู้สมัครในคณะเหล่านี้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ปัจจัยที่ทำให้การแข่งขันสูงขึ้น
- จำนวนผู้สมัครเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา
- จำนวนที่นั่งในคณะยอดนิยมจำกัด
- ระบบการคัดเลือกเข้มงวดและปรับเปลี่ยน
- ค่านิยมของสังคมต่อวิชาชีพเฉพาะทาง
- การศึกษากวดวิชาที่ทำให้ระดับคะแนนเฉลี่ยสูงขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาเสนอแนะว่า นักเรียนควรวางแผนระยะยาวในการเตรียมตัวเข้าสอบ โดยเน้นการทำโจทย์วิเคราะห์มากกว่าท่องจำ และควรเลือกคณะที่ตรงกับความสนใจจริงเพื่อเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในอนาคต ขณะเดียวกัน ผู้ปกครองควรให้การสนับสนุนทางอารมณ์แก่ลูกมากกว่าการกดดัน เพื่อไม่ให้เกิดภาวะเครียดเรื้อรัง
แม้ว่าการสอบเข้ามหาวิทยาลัยจะเป็นเส้นทางสำคัญสำหรับนักเรียนไทยจำนวนมาก แต่การพัฒนาศักยภาพในทักษะอื่นๆ เช่น ความคิดสร้างสรรค์ การสื่อสาร และการทำงานร่วมกับผู้อื่น ก็เป็นองค์ประกอบที่สำคัญไม่แพ้กันในโลกยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว
Don't miss a story
Subscribe to our email newsletter:
Don't worry we hate spam as much as you do



