Share Tweet Pin it

คาเฟอีนในกาแฟแต่ละชนิดแตกต่างอย่างไร


คาเฟอีน (Caffeine) เป็นสารกระตุ้นที่พบมากในกาแฟ ช่วยให้รู้สึกตื่นตัว สดชื่น และมีสมาธิมากขึ้น แต่ทราบหรือไม่ว่า กาแฟแต่ละชนิดมีปริมาณคาเฟอีนแตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อระดับพลังงาน ร่างกาย และสุขภาพของแต่ละคนด้วย

การรู้จักปริมาณคาเฟอีนในกาแฟแต่ละประเภท จะช่วยให้คุณเลือกดื่มได้เหมาะกับความต้องการในแต่ละช่วงของวัน และลดความเสี่ยงจากการได้รับคาเฟอีนมากเกินไป

ปริมาณคาเฟอีนในกาแฟยอดนิยม

– Espresso (30ml): ประมาณ 63 มก. – Americano (120ml): ประมาณ 95 มก. – Drip Coffee (240ml): ประมาณ 120–150 มก. – Latte/Cappuccino (240ml): ประมาณ 63–95 มก. – Decaf Coffee: ประมาณ 2–5 มก.

สรุปประเด็นสำคัญ
  • กาแฟดำมีคาเฟอีนมากกว่ากาแฟนม
  • ปริมาณคาเฟอีนขึ้นอยู่กับวิธีการชงและชนิดของเมล็ดกาแฟ
  • ร่างกายผู้ใหญ่ควรรับคาเฟอีนไม่เกิน 400 มก. ต่อวัน

เมล็ดกาแฟที่นิยมใช้มี 2 สายพันธุ์หลัก ได้แก่ Arabica และ Robusta โดย Robusta มีคาเฟอีนมากกว่า Arabica ถึง 2 เท่า จึงมักถูกใช้ในกาแฟชงเข้ม เช่น กาแฟโบราณ หรือบางเมนูสไตล์อิตาเลียน

เลือกดื่มอย่างไรให้ปลอดภัยและเหมาะกับตัวเอง

– หากคุณไวต่อคาเฟอีน ควรหลีกเลี่ยงการดื่มหลังเวลา 14.00 น. – ดื่มน้ำตามมาก ๆ เพื่อช่วยขับคาเฟอีนออกจากร่างกาย – ไม่ควรดื่มกาแฟขณะท้องว่าง เพราะอาจระคายกระเพาะ

“ไม่ใช่กาแฟทุกแก้วมีคาเฟอีนเท่ากัน เลือกดื่มให้เหมาะกับร่างกายคุณดีที่สุด”

หากคุณรู้สึกใจสั่น นอนไม่หลับ หรือมีอาการปวดหัวบ่อย ๆ หลังดื่มกาแฟ อาจเป็นสัญญาณว่าร่างกายคุณได้รับคาเฟอีนมากเกินไป ลองสังเกตและปรับเปลี่ยนปริมาณที่เหมาะสม

  • เริ่มต้นวันด้วยกาแฟที่มีคาเฟอีนสูง เช่น ดริปหรืออเมริกาโน
  • ช่วงบ่ายเลือกเมนูเบา เช่น ลาเต้ หรือ Decaf
  • ฟังร่างกายตัวเอง และปรับพฤติกรรมตาม

กาแฟสามารถเป็นเพื่อนที่ดีในวันทำงานของคุณได้ หากคุณเข้าใจปริมาณคาเฟอีนและรู้จักเลือกดื่มอย่างพอดี ทั้งอร่อย สดชื่น และไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ


Don't miss a story

Subscribe to our email newsletter:

Don't worry we hate spam as much as you do

Related Articles

Business

Description

by Rana F.Sep. 28, 20162
Business

Description

by Rana F.Sep. 28, 20162
Business

Description

by Rana F.Sep. 28, 20162

Leave a reply