ความไม่แน่นอนของข้อตกลงสงบศึก: หากไทยไม่สำเร็จเจรจาภาษีอาจเกิดแรงกดดันเพิ่ม
แม้ว่าการเจรจาสงบศึกระหว่างไทยและกัมพูชาจะมีความคืบหน้าในบางประเด็น แต่ปัจจัยทางเศรษฐกิจยังคงเป็นความท้าทายสำคัญ โดยเฉพาะในประเด็นการเจรจาภาษีส่งออกกับสหรัฐฯ ที่เชื่อมโยงโดยตรงกับมาตรการลดภาษีจาก 49% เหลือ 19% หากไทยไม่สามารถดำเนินการเจรจาให้สำเร็จตามที่ตกลงไว้ อาจเผชิญแรงกดดันทั้งจากภายในประเทศและจากคู่ค้าระหว่างประเทศ
การลดภาษีที่สหรัฐฯ มอบให้ถูกมองว่าเป็น “แรงจูงใจ” ในการเร่งกระบวนการสันติภาพ แต่ก็มีเงื่อนไขแฝงที่ระบุอย่างไม่เป็นทางการว่า ไทยจะต้องแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างชัดเจนในการแก้ไขความขัดแย้งและรักษาเสถียรภาพในภูมิภาค หากไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ความได้เปรียบทางภาษีนี้อาจถูกเพิกถอน
ความเสี่ยงที่ไทยต้องเผชิญ
แรงกดดันหลักมาจากความคาดหวังของภาคธุรกิจและประชาชนที่หวังว่าการลดภาษีจะช่วยฟื้นเศรษฐกิจ หากสิทธิประโยชน์นี้หายไป อาจทำให้ราคาสินค้าส่งออกสูงขึ้นทันที ส่งผลให้สูญเสียความสามารถในการแข่งขันในตลาดสหรัฐฯ และกระทบต่อการจ้างงานในหลายภาคส่วน
สรุปประเด็นสำคัญ
- การลดภาษีขึ้นอยู่กับความก้าวหน้าในการเจรจาสันติภาพ
- หากไทยล้มเหลว สิทธิประโยชน์ทางภาษีอาจถูกเพิกถอน
- แรงกดดันมาจากทั้งภายในและภายนอกประเทศ

นักวิเคราะห์ชี้ว่าการคงสิทธิประโยชน์ทางภาษีจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อไทยสามารถสร้างภาพลักษณ์ของการเป็นประเทศที่พร้อมรักษาสัญญาและสามารถควบคุมสถานการณ์ชายแดนได้อย่างมีเสถียรภาพ ขณะเดียวกัน รัฐบาลไทยต้องแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงในการทำงานร่วมกับพันธมิตรระหว่างประเทศเพื่อแก้ปัญหาในเชิงโครงสร้าง
แรงกดดันทางการเมือง
ในประเทศ ฝ่ายค้านและภาคประชาสังคมอาจใช้ประเด็นการสูญเสียสิทธิประโยชน์ทางภาษีเป็นเครื่องมือโจมตีรัฐบาล ซึ่งจะยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อฝ่ายบริหารในการเร่งบรรลุข้อตกลงสันติภาพ ส่วนในเวทีระหว่างประเทศ ไทยอาจถูกมองว่าไม่สามารถจัดการความขัดแย้งภายในภูมิภาคได้ ทำให้ความน่าเชื่อถือลดลง
“การรักษาสัญญาในเวทีระหว่างประเทศไม่ใช่เพียงเรื่องของเกียรติ แต่เป็นเรื่องของเศรษฐกิจและความอยู่รอด”
คำกล่าวนี้สะท้อนว่าการเจรจาสงบศึกและการรักษาสิทธิประโยชน์ทางเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกันอย่างแยกไม่ออก
แนวทางรับมือ
เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียสิทธิประโยชน์ รัฐบาลไทยควรเร่งดำเนินการเจรจาสงบศึกให้ได้ข้อสรุปที่จับต้องได้ภายในกรอบเวลาที่เหมาะสม พร้อมทั้งสร้างกลไกติดตามความคืบหน้าที่โปร่งใส และเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางการค้าระหว่างประเทศ
- เร่งเจรจาสงบศึกและสร้างหลักประกันในความปลอดภัยชายแดน
- จัดตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างรัฐและเอกชนเพื่อติดตามสถานการณ์
- ขยายตลาดส่งออกไปยังภูมิภาคอื่นเพื่อลดความเสี่ยง
ในภาพรวม ความไม่แน่นอนของข้อตกลงสงบศึกเชื่อมโยงโดยตรงกับอนาคตเศรษฐกิจของไทย การล้มเหลวในการรักษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีอาจทำให้ประเทศต้องเผชิญแรงกดดันที่รุนแรงขึ้นทั้งในเวทีภายในและระหว่างประเทศ
Don't miss a story
Subscribe to our email newsletter
Don't worry we hate spam as much as you do



