คนแห่ขายทอง หลังราคาทะลุ 34,000 บาทต่อบาททองคำ
ราคาทองคำในประเทศได้ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่กว่า 34,000 บาทต่อบาททองคำ ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากนำทองรูปพรรณและทองแท่งที่กักเก็บไว้เข้ามาขายกับร้านทองทั่วประเทศ เพื่อเก็งกำไรและลดความเสี่ยงจากราคาทองที่ผันผวนต่อไป สถานการณ์นี้ถือเป็นปรากฏการณ์ทางเศรษฐกิจที่สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของประชาชนต่อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven)
ร้านทองในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่รายงานว่า ปริมาณทองคำที่เข้ารับซื้อเพิ่มขึ้นสูงกว่าปกติถึง 30–40% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า โดยเฉพาะปีทองรูปพรรณเก่าและทองแท่งน้ำหนัก 1 บาท ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มแม่บ้าน เกษตรกร และข้าราชการที่ต้องการใช้เงินสดเข้ามาหมุนเวียนในครัวเรือน หรือชดเชยต้นทุนค่าครองชีพที่สูงขึ้นจากเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมา

นักวิเคราะห์ทองคำระบุว่า ปัจจัยหลักมาจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก การคาดการณ์ที่ธนาคารกลางสหรัฐอาจขึ้นดอกเบี้ยช้ากว่าคาด รวมถึงภาวะเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง ทำให้นักลงทุนหันมาถือทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าก็ยิ่งกระตุ้นให้ราคาทองในประเทศปรับตัวขึ้นตามไปด้วย
หัวข้อย่อย: ข้อควรรู้ก่อนขายทอง
- ตรวจสอบราคาทองในแต่ละร้านก่อนขาย เพื่อให้ได้ราคาดีที่สุด
- เตรียมใบรับประกันหรือใบเสร็จรับซื้อทองเดิม เพื่อยืนยันคุณภาพและลดค่าหักเปอร์เซ็นต์
- พิจารณาอัตราค่ากำเหน็จและค่า VAT ที่ร้านตั้งไว้
- หากต้องการซื้อคืน ควรรอช่วงราคาทองลงถึงระดับต่ำกว่า 33,000 บาท
- ประเมินความจำเป็นใช้เงินสดเทียบกับการถือทองในระยะยาว
แม้ว่าการขายทองในช่วงราคาสูงจะช่วยให้ได้กำไรทันที แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนให้ระวังต้นทุนโอกาส (Opportunity Cost) หากราคาทองปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในอนาคต และควรแบ่งสัดส่วนการลงทุนระหว่างทองคำ ตราสารทุน และสินทรัพย์อื่น ๆ เพื่อกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม
สำหรับผู้ที่ต้องการเข้ามาลงทุนในทองคำ ควรติดตามข่าวสารตัวเลขเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย และความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด รวมถึงเลือกซื้อทองคำแท่งจากผู้ประกอบการที่น่าเชื่อถือ เพื่อป้องกันการซื้อทองปลอมและปัญหาด้านคุณภาพในภายหลัง
Don't miss a story
Subscribe to our email newsletter:
Don't worry we hate spam as much as you do



