กระแสรณรงค์งดใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวกำลังมาแรง

ในยุคที่สิ่งแวดล้อมกำลังเผชิญปัญหาขยะล้นโลก “พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว” หรือ Single-Use Plastics กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบรุนแรง โดยเฉพาะต่อระบบนิเวศทางทะเล สัตว์น้ำ และคุณภาพชีวิตของมนุษย์ จึงไม่น่าแปลกใจที่กระแสรณรงค์ให้งดใช้พลาสติกประเภทนี้กำลังได้รับความสนใจและขยายตัวอย่างรวดเร็วทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยด้วย

พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว ได้แก่ ถุงหิ้วพลาสติก หลอดพลาสติก แก้วพลาสติก จานชามพลาสติก และบรรจุภัณฑ์อื่นๆ ที่ออกแบบมาให้ใช้แล้วทิ้งทันที แม้สะดวกสบายแต่กลับสร้างภาระให้โลกอย่างมหาศาล เนื่องจากใช้เวลาย่อยสลายหลายร้อยปี บางชิ้นแตกตัวเป็นไมโครพลาสติกและเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารโดยไม่รู้ตัว

หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนเริ่มร่วมมือกันผลักดันนโยบายและพฤติกรรมใหม่ เช่น การเลิกแจกถุงพลาสติกในห้างสรรพสินค้า การส่งเสริมให้ใช้ภาชนะที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำ การผลิตบรรจุภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติ หรือแม้แต่การคิดค้นเทคโนโลยีพลาสติกย่อยสลายได้ภายในระยะเวลาสั้น เพื่อช่วยลดการสะสมของขยะในธรรมชาติ

แนวทางลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว

• พกถุงผ้าส่วนตัวแทนถุงพลาสติก
• ใช้กล่องอาหารและแก้วน้ำที่สามารถใช้ซ้ำได้
• ปฏิเสธหลอดพลาสติกในร้านอาหารและเครื่องดื่ม
• เลือกซื้อสินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
• ร่วมกิจกรรมทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะและชายหาด

คนรุ่นใหม่เริ่มตื่นตัวกับประเด็นสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เห็นได้จากแคมเปญออนไลน์ที่รณรงค์เรื่องนี้ได้รับการตอบรับอย่างกว้างขวาง โรงเรียน มหาวิทยาลัย และองค์กรต่างๆ เริ่มประกาศนโยบาย “No Single-Use Plastic” หรือเปลี่ยนมาใช้วัสดุทางเลือกที่ยั่งยืนมากขึ้น ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงเชิงวัฒนธรรมในสังคม

แม้ว่าการเปลี่ยนพฤติกรรมจะต้องใช้เวลา แต่หากทุกภาคส่วนร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง กระแสนี้จะไม่ใช่เพียงแค่ “กระแสชั่วคราว” แต่จะกลายเป็นแนวทางหลักในการดำเนินชีวิตแบบใส่ใจสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งโลกและคนรุ่นหลังในระยะยาว