เศรษฐกิจสีเขียว โอกาสธุรกิจไทยบนเส้นทาง Carbon Neutral
ในทศวรรษนี้ ประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กลายเป็นวาระสำคัญของทั้งโลก ภาคธุรกิจในหลายประเทศต่างเร่งขับเคลื่อนแนวทาง “เศรษฐกิจสีเขียว” หรือ Green Economy เพื่อตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้บริโภค นักลงทุน และพันธกรณีระหว่างประเทศที่มุ่งสู่เป้าหมาย Carbon Neutral หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในช่วงกลางศตวรรษนี้ ประเทศไทยเองในฐานะศูนย์กลางการผลิตและห่วงโซ่อุปทานสำคัญของภูมิภาคอาเซียน ก็กำลังเผชิญทั้งความท้าทายและโอกาสใหม่ที่มาพร้อมกับคลื่นเศรษฐกิจสีเขียวอย่างชัดเจน
การประกาศเป้าหมาย Carbon Neutrality ของประเทศไทยภายในปี 2050 และเป้าหมาย Net Zero Emission ภายในปี 2065 ตามที่รัฐบาลกำหนดไว้นั้น ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่ได้เริ่มแทรกซึมสู่ทุกภาคอุตสาหกรรมผ่านกฎระเบียบและมาตรการใหม่ที่เข้มงวดขึ้น อาทิ การรายงานคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร การใช้พลังงานหมุนเวียน การจัดการขยะและเศษวัสดุ การใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพด้านพลังงานมากขึ้น สิ่งเหล่านี้อาจถูกมองว่าเป็นภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นสำหรับผู้ประกอบการบางกลุ่ม แต่ในอีกมุมหนึ่ง นี่คือโอกาสในการสร้างความแตกต่างและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการไทยในตลาดโลกที่ให้ความสำคัญต่อ ESG (Environmental, Social and Governance) อย่างมากขึ้นเรื่อย ๆ

เมื่อมองไปยังตลาดโลก จะพบว่าประเทศคู่ค้าและพันธมิตรสำคัญของไทย โดยเฉพาะสหภาพยุโรป (EU) และสหรัฐอเมริกา ต่างกำลังออกกฎระเบียบทางการค้าที่เข้มงวดขึ้นเพื่อกีดกันสินค้าที่มีรอยเท้าคาร์บอนสูง เช่น มาตรการ CBAM (Carbon Border Adjustment Mechanism) ของ EU ที่จะเก็บภาษีสินค้านำเข้าที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงเกินมาตรฐาน นี่หมายความว่าผู้ผลิตไทยที่ไม่ปรับตัวอาจเผชิญต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและสูญเสียความสามารถในการแข่งขันในตลาดสากลได้ง่าย ในทางกลับกัน ธุรกิจที่เร่งลงทุนในเทคโนโลยีสะอาด การพัฒนา Supply Chain ที่ยั่งยืน และการใช้พลังงานหมุนเวียน จะกลายเป็นผู้ได้เปรียบในเวทีการค้าโลกที่เปลี่ยนไป
ในประเทศเอง พฤติกรรมผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกัน งานวิจัยหลายฉบับสะท้อนว่าผู้บริโภคยุคใหม่มีแนวโน้มเลือกซื้อสินค้าและบริการจากแบรนด์ที่แสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสินค้าออร์แกนิก สินค้าท้องถิ่นที่ลดรอยเท้าคาร์บอนจากการขนส่ง หรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้ ส่งผลให้แบรนด์ไทยที่สามารถสื่อสารเรื่องราวของความยั่งยืนได้อย่างจริงใจและโปร่งใส มีโอกาสเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่พร้อมสนับสนุนในราคาที่สูงขึ้น
นอกจากนี้ แนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ก็เป็นอีกหนึ่งเส้นทางสำคัญที่ธุรกิจไทยควรเร่งปรับตัว อุตสาหกรรมรีไซเคิล การจัดการขยะ การออกแบบสินค้าให้ใช้ซ้ำได้หลายครั้ง หรือการออกแบบธุรกิจให้ขับเคลื่อนด้วยทรัพยากรหมุนเวียน ล้วนเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยลดต้นทุนการผลิตในระยะยาว ลดการพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติ และสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่ตอบโจทย์โลกยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี
หากทุกภาคส่วนร่วมกันเดินไปในทิศทางเดียวกัน เศรษฐกิจสีเขียวจะไม่ใช่แค่แนวคิดทางสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่จะเป็นเครื่องยนต์ใหม่ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในระยะยาว สร้างโอกาสการจ้างงานคุณภาพ กระตุ้นการลงทุนเทคโนโลยีสะอาด เพิ่มศักยภาพการส่งออกสินค้าและบริการไทยสู่ตลาดโลกที่ยั่งยืน และที่สำคัญ ยังช่วยรักษาทรัพยากรและคุณภาพชีวิตของคนไทยรุ่นต่อไปบนเส้นทางสู่เป้าหมาย Carbon Neutral อย่างมั่นคงและเป็นรูปธรรม
Don't miss a story
Subscribe to our email newsletter:
Don't worry we hate spam as much as you do



